จากกรณีที่มีการส่งคลิปเสียงและข้อความไลน์การพูดคุยตกลงกันระหว่างหญิงสาวคนหนึ่งให้กับสื่อมวลชนทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น นอกจากนี้ยังระบุว่าส่งให้กับ “หมอปลา”แล้วด้วย โดยเป็นคลิปเสียงความยาว 20.22 นาทีพร้อมข้อความที่พูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ผู้หญิงเรียกตัวเองว่า “ตอง” กับผู้ชายที่น้ำเสียงคล้ายพระภิกษุที่เป็นพระนักเทศน์หนุ่มที่มีชื่อเสียงในภาคใต้ เพราะมีสไตล์การเทศน์ที่แทรกความตลกขบขัน ถูกใจวัยรุ่น และโด่งดังมากในโลกออนไลน์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา  ในคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการพูดคุยกันระหว่างพระภิกษุรูปหนึ่งกับสีกาสาว โดยสีกาได้ถามหลวงพี่รูปดังกล่าวว่าการมีเพศสัมพันธ์กันในรถเมื่อคืนก่อนบาปหรือไม่ ในขณะที่หลวงพี่อ้างว่าไม่บาป สีกาสาวถามย้ำด้วยความสงสัยว่า ทำไม่ไม่บาป หลวงพี่ตอบว่าอยู่ที่เจตตนา เรามีเจตนาที่ดีจึงไม่บาป  ในขณะที่พระพงศกร ปภัสสโร หรือ “หลวงพี่กาโตะ” รักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้ออกมาปฏิเสธผ่านสื่อมวลชนว่าคลิปเสียงดังกล่าวไม่ได้เป็นเสียงของตนและยืนยันว่าตนเองไม่รู้จักกับผู้หญิงคนดังกล่าวแต่อย่างใดเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อหวังผลประโยชน์และมีการทำกันเป็นขบวนการ จนกลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปตามลำดับแล้วนั้น

 

วันที่ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากที่กระแสผู้คนจำนวนมากออกมาป้องหลวงพี่กาโตะว่าเป็นพระที่ดี จิตใจโอบอ้อมอารี มีความเมตตา ช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้เดือดร้อนอย่างต่อเนื่องจึงไม่เชื่อว่าเรื่องที่ตกเป็นข่าวเป็นเรื่องจริง ปรากฏว่าได้มีการส่งคลิปอีกคลิปออกมาเปิดโปงอย่างต่อเนื่อง แม้ทางฝ่ายหญิงจะออกมาทำคลิปอ้างว่าตัวเองป่วยไบโพลาร์และกุเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด ล่าสุดมีการเปิดคลิปเสียง หนึ่งความยาว 15.39 นาทีให้กับสื่อมวลชนโดยเป็นคลิปที่หลวงพี่ระบุว่าจะยกเลิกไลน์เก่าไปไลน์อันใหม่ และในนาทีที่ 6.50 ฝ่ายผู้ชายระบุชื่อตัวเองชัดเจนว่าต่อไปจะไม่มีหลวงพี่......?จะไม่ใช้ไม่ใช้ไลน์นี้อีกต่อไป พร้อมได้ส่งข้อความไลน์ที่หลวงพี่โอนเงินให้สาวตองต่อเนื่อง รวมทั้งหมดกว่า 2 แสนบาทตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564

 

นายธนาชัย เกตุโรจน์ ประธานชมรมททนายความเพื่อประชาชนเมืองคอน กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวนี้มาระยะหนึ่งแล้ว จนสรุปได้คลิปเสียงน่าของจริงที่อยากที่จะมีใครสร้างขึ้นมากลั่นแกล้งกันได้ เพราะเป็นการพูดคุยกันของคนสองคน ส่วนจะเป็นเสียงใครนั้นไม่ทราบได้ แต่คลิปเสียงเป็นของจริงแน่นอน สำหรับการที่มีคลิปที่ฝ่ายผู้หญิงส่งใบรับรองแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคไบโพลาร์และเข้ารับการรักษากับสถานพยายบาล 2 แห่ง และออกมายอมรับว่าตัวเองสร้างเรื่องขึ้นมาเพราะอาการป่วยจึงมีจินนาการไปเองต่าง ๆ นานา พร้อมขอโทษชาวพุทธและทุกฝ่ายที่ทำให้เสื่อมเสีย  ตรงนี้สรุปได้ว่าฝ่ายผู้หญิงป่วยเป็นโรคไบโพลาร์จริง และด้วยอาการป่วยนี้แหละจึงนำเรื่องจริงออกมาเปิดเผย ส่งให้คนโน้น คนนี้มั่วไปหมด  เรื่องนี้จะเป็นเสียงผู้ใดคงสามารถตรวจสอบได้ไม่ยากเลยเพราะไม่ใช่เป็นความพยายามที่จะปลอมแปลงเลียนแบบเสียง แต่เป็นการพูดคุยกันตามปกติ แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแอบอัดเสียงไว้ด้วยก็เท่านั้น ขอย้ำว่า “เขาป่วยจริง จึงนำเอาเรื่องจริงมาเปิดเผย”

 

“และจากการตรวจสอบในสลิปการโอนเงินจากในข่าวพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้หญิงหลายครั้งมียอดรวมจากเดือน ก.พ. 2565 กว่า 2 แสนบาท โดยเฉพาะยอดโดนวันที่ 21 มี.ค. 2565 โอนจำนวน 40,000 บาท ,วันที่ 7 เม.ย. 2565 โอนจำนวน 100,000 บาท และวันที่ 8 เม.ย. 2565 โอนอีก 30,000 บาท จนเงินในบัญชีผู้โอนจากเกือบ 4 แสนเหลือไม่กี่พันบาท ซึ่งหากมีปัญหาก็สามารถตรวจสอบเงินเขาเงินออกจากบัญชีของทั้งผู้โอนและผู้รับได้อย่างง่ายมาก ๆ รู้ได้อย่างละเอียดว่าใครโอนจากบัญชีใคร เข้าบัญชีใคร วันเดือนปีและเวลาใด  ดังนั้นหากตรวจเช็คแล้วพบว่าทั้งคลิปเสียง ข้อความไลน์ และการโอนเงินสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดคงยากที่จะแก้ตัวหรือปฏิเสธ แต่ตอนนี้จะไปฟันธงว่าคลิปเสียง ข้อความไลน์ และสลิปการโฮนเงินเป็นของหลวงพี่กาโตะหรือไม่คงไปฟันธงไม่ได้ เรื่องนี้อาจจะไม่ผิดในทางอาญา แต่หากเป็นเสียงท่านกาโตะจริงทางวินัยสงฆ์ยังไงมันก็ผิดถึงขั้นปาราชิก ”นายธนาชัย เกตุโรจน์ กล่าว.