โซเชี่ยลฮือฮา หนุ่มชาวประมงกระบี่พบลูกแก้วประหลาด ในลูกทุเรียน  เผยซื้อทุเรียนพื้นบ้าน เอามากินกันในครอบครัว ด้านเกษตรอำเภอเชื่อ ลูกแก้วพบในทุเรียนที่กระบี่ น่าจะถูกเจ้าของสวนยิงจากหนังสติ๊ก

วันที่ 9 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไป ที่บ้านเลขที่ 149/2 บ้านคลองกรวด หมู่ 6 ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ แต่ไม่พบตัวนายสมคิด หรือกาหรีม ทองดี อายุ 41 ปี หนุ่มเจ้าของลูกแก้วดังกล่าว เนื่องจากเจ้าตัวออกเรือไปเลี้ยงปลาในกระชัง แต่ได้พบกับนางจารียา ทองดี อายุ 58 ปี แม่เลี้ยงของนายสมคิด ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่นายสมคิด กินทุเรียนแล้วเจอลูกแก้วดังกล่าว ญาติๆ ของนายสมคิด นำลูกแก้วดังกล่าวออกมาให้ผู้สื่อข่าวดูอีกครั้ง พบเป็นลูกแก้วแบบใส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 1 ซม.เล็กน้อย ลักษณะ และขนาดคล้ายกับลูกแก้วที่ใช้เป็นลูกกลิ้งของขวดเหล้า อย่างไรก็ตามชาวบ้าน และญาติๆ เชื่อกันว่าเป็นลูกแก้วหยดน้ำค้าง จึงเก็บไว้และพร้อมจะให้ใครที่สงสัยมาตรวจสอบได้

นางจารียา เล่าว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา นายสมคิด ลูกชายกลับจากไปเฝ้ากระชังปลา แล้วอยากกินทุเรียน จึงไปซื้อทุเรียนในหมู่บ้านมากิน เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นบ้าน จากนั้นก็มานั่งกินกัน 3 คน โดยตนนั่งกินอยู่ด้วย ระหว่างนั้น นายสมคิด เคี้ยวโดนลูกแก้วดังกล่าว จึงบอกให้ตนทราบ ยืนยันได้ว่าลูกแก้วดังกล่าว ออกมาจากเนื้อทุเรียนจริง ไม่ได้หยิบมาจากที่อื่นแน่นอน โดยส่วนตัวตนเอง ก็ไม่เคยเห็นลูกแก้วแบบนี้มาก่อน ก่อนนี้ที่เคยเห็นก็จะเป็นพวกมุกที่มาจากเปลือกหอยทะเล จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกแก้วดังกล่าวเป็นอะไรกันแน่ แต่ลูกชายก็เอาเก็บไว้ เผื่อว่าจะมีใครพิสูจน์ให้ได้

ขณะที่นางเขียว ชูกูล อายุ 66 ปี ป้าของนายสมคิด กล่าวว่า วัตถุดังกล่าวตนไม่เคยเห็นมาก่อนว่าจะออกมาจากทุเรียนได้อย่างไร แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นของมีค่า ตนจะเก็บรักษาเอาไว้ให้หลานชายเพื่อจะทำให้เขามีชีวิตดีขึ้น หากเป็นไปได้อยากจะให้นำไปตรวจสอบกับคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องนี้เพื่อจะได้คลายความสงสัยต่อไป

ด้านนายสุเทพ หนูรุ่น เกษตรอำเภอเมืองกระบี่ เผยว่า ตนเห็นข่าวดังกล่าวแล้ว ขณะนี้กำลังประสานในพื้นที่ให้ลองตรวจสอบดูว่าคืออะไร แต่โดยส่วนตัวมองว่า อาจเป็นลูกแก้วที่ถูกยิงจากหนังสติ๊กเข้าไปในลูกทุเรียน ซึ่งเจ้าของสวน อาจจะยิงเพื่อไล่สัตว์พวกกระรอกที่ชอบมากัดกินทุเรียน โดยยิงตอนที่ทุเรียนแก่แล้วฝังไว้ในเนื้อทุเรียน อีกทางคือเพิ่งยิงเข้าไปทำให้ไม่มีอาการเน่าของทุเรียน แต่ก็อธิบายได้ยาก เนื่องจากไม่เห็นเปลือกของทุเรียน ว่ามีบาดแผลหรือไม่ ดังนั้นวิธีการที่จะรู้ได้ คือนำวัตถุดังกล่าวส่งไปตรวจพิสูจน์ยังผู้เชี่ยวชาญ เช่น ร้านขายมุก เป็นต้น.