วันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. นายชนะอนันต์ นาคแท้ หรือป๋าดาว อายุ 47 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดนาคแท้ มีสำนักงานตั้งอยู่ที่บ้านกล้วย หมู่ 7 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ได้รวบรวมผู้ประกอบการรับจ้าง บรรทุกหินทรายในพื้นที่ นำรถบรรทุก 6 ล้อประมาณ 50 คัน ที่กระบะใส่หิน ทราย เพื่อไปถวายยังวัดโพนสวรรค์ หรือชาวบ้านเรียกว่าวัดทุ่ง บ้านโพนสวรรค์หมู่ 2 ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม เนื่องจากกำลังก่อสร้างอุโบสถแต่ยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมาก

 

โดยป๋าดาวสั่งสกรีนชื่อบนเสื้อด้านหน้าว่า”รถดั๊มซิ่งสายบุญ” ส่วนด้านหลังเสื้อใช้ชื่อ “ป๋าดาวสั่งลุย” โดยตั้งขบวนกันที่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข นพ.2010 (สายบ้านขามเฒ่า-บ้านหนองดินแดง) พอถึงเวลาที่กำหนดก็เคลื่อนขบวนเดินทางไปยังวัดโพนสวรรค์ ระหว่างทางก็บีบแตรเอาเคล็ดและเปิดเพลงดนตรีพื้นบ้านจังหวะสนุก เพื่อเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์ทำบุญสร้างโบถส์ร่วมกัน ส่วนปากทางเข้าวัดก็มีพระสงฆ์ 2 รูป ประพรมน้ำมนต์ให้มีความโชคดี แคล้วคลาด ปลอดภัย ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง พร้อมชาวบ้านที่มารำต้อนรับทีมรถดั๊มซิ่งสายบุญ

 

โดยรถบรรทุกนำหินทรายเทที่ลานกว้างใกล้กับที่ก่อสร้างโบสถ์ และมีโรงทานจากผู้ประกอบการธุรกิจเดียวกัน จำนวน 6 โรงทาน และไม่พลาดคือแผงลอตเตอรี่เคลื่อนที่ได้มาวางขายให้เสี่ยงโชคกัน ตรงบริเวณหน้าศาลาการเปรียญ

 

นายชนะอนันต์ นาคแท้ หรือป๋าดาวผู้เป็นโต้โผในการจัดผ้าป่าหินปูนทรายถวายวัดโพนสวรรค์ เปิดเผยว่า เดิมประกอบกิจการรถเกี่ยวข้าว และรถไถรับจ้างมากว่า 10 ปี ภายหลังก็มาทำกิจการรถบรรทุกหินทรายเพิ่มเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ตนนั้นมีความศรัทธาเลื่อมใสต่อวัดโพนสวรรค์มานาน เมื่อปี 2564 มีการก่อสร้างพระอุโบสถ ก็เป็นผู้ชักชวนเพื่อนฝูงที่ประกอบธุรกิจรถบรรทุก นำหินปูนทรายถวายในปีนั้น 36 คัน มาถึงปีนี้ก็เป็นปีที่ 2 ที่จัดผ้าป่าหินปูนทรายอีกครั้ง ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเพื่อนๆ

 

โดยป๋าดาวเผยต่อว่า ราคาหินปูนทรายที่นำมาถวายนี้ หิน 1 คันตกราคา 3,500 บาท ทรายคันละ 2,000 บาท และปูนกระสอบละ 150 บาท ซึ่งเป็นการบริจาคของผู้ประกอบกิจการนี้ มูลคาร่วมประมาณ 100,000 บาท  โดยพวกตนจะจัดผ้าป่าลักษณะนี้จนกว่าพระอุโบสถจะแล้วเสร็จ

 

ด้าน พระใบฎีกาจักรพงษ์ จักกะวะโส หรือพระอาจารย์แว่น เจ้าคณะตำบลขามเฒ่า/เจ้าอาวาสวัดโพนสวรรค์ กล่าวว่าโบสถ์หลังนี้มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท โดยออกแบบรูปทรงเป็นศิลปะพื้นบ้านอีสาน ตอนนี้ก่อสร้างไปแล้วราว 20 % ซึ่งปีแรกที่ทางป๋าดาวจัดผ้าป่าหินปูนทรายถวาย ก็เทเสาและคานไปหมดแล้ว ยิ่งวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างมีราคาแพงสูงเป็นเท่าตัว การก่อสร้างโบสถ์หลังนี้ก็จะประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ 10 ล้านบาท ยังดีที่ป๋าดาวนำหินปูนทรายมาถวายช่วยถือว่าประหยัดเงินไปได้เยอะ