วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.30 น. ณ เมรุชั่วคราวป่าช้า บ้านเสาเล้าทุ่ง หมู่ 13 ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม นายนิคม มากอง อายุ 66 ปี พร้อมด้วยนายนเรศ มากอง อายุ 37 ปี อาจารย์ประจำวิชาภาษาไทย โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โพนสวรรค์ ซึ่งเป็นพ่อและพี่ชายของนายนครินทร์ มากอง หรือน้องพริก อายุ 23 ปี นศ.มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่อัตวินิบาตกรรมด้วยการผูกคอเสียชีวิตบนขื่อกลางบ้าน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยวันนี้ทางครอบครัวได้ร่วมกับญาติพี่น้อง คณะครูอาจารย์ เพื่อนนักศึกษา และชาวบ้านในพื้นที่ ประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี  ท่ามกลางบรรยากาศความโศกเศร้าเสียใจ เนื่องจากผู้ตายเป็นที่รักใคร่ และเป็นที่รู้จักของเพื่อนนักศึกษา รวมถึงบุคคลที่ติดตามผลงานเพลง ซึ่งเป็นนักร้องอินดี้อีสานดาวรุ่ง ที่มีผลงานเพลงกำลังมีคนเข้าไปติดตามทางช่องยูทูบ ในช่วง 2 -3 เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งมีพี่ชายเป็นคนเขียนเพลงให้น้องพริกขับร้อง และเล่นเอ็มวีเองในผลงานเพลงชื่อ อยากขาวทักแซท หลังมีข่าวการเสียชีวิตของน้องพริกไม่กี่วัน ทำให้มีคนแห่เข้าไปติดตามผลงานเพิ่มขึ้นเกือบ 20,000 วิว จากเดิมปนระมาณ 5,000 วิว

ทั้งนี้บรรยากาศงานฌาปนกิจศพ ได้มีการจัดแสดงรำหน้าไฟของวงโปงลางของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสาเล้าที่น้องพริกมาเป็นครูฝึกสอน พร้อมเปิดผลงานเพลงของน้องพริกดังก้องป่าช้า ในชื่อเพลงอยากขาวทักแซท เพื่อเป็นการชื่นชมความสามารถของผู้เสียชีวิต และร่วมกันไว้อาลัยส่งวิญญาณสู่สวรรค์ 

นายนเรศ มากอง อายุ 37 ปี อาจารย์ประจำวิชาภาษาไทย พี่ชายน้องพริก เปิดเผยว่าวันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่จะส่งวิญญาณของน้องพริกไปสู่สวรรค์ ถึงแม้จะยังทำใจไม่ได้ เชื่อว่าน้องชายจะไปอยู่กับแม่ในภูมิภพที่ดี เพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่น้องอายุ 7 ขวบ และตนได้ดูแลเลี้ยงดูมาจึงเป็นทั้งพี่ชายเป็นทั้งแม่ ยอมรับน้องพริกเป็นคนมีความสามารถ ทั้งเรียนเก่งชอบทำกิจกรรมกับเพื่อนนักศึกษา และเรียนใกล้จบการศึกษาแล้ว คาดหวังจะให้สอบรับราชการครูเอกภาษาไทยตามความตั้งใจ ส่วนการร้องเพลงเป็นพรสวรรค์ และความสามารถส่วนตัวที่มีมาแต่เด็ก และได้สายเลือดพ่อที่เป็นหมอลำรับจ้างตามงานบุญ เสียดายอนาคตน้องมาก รวมถึงผลงานเพลงที่ตนได้เขียนขึ้นมาให้น้องร้องเล่นเอ็มวี กำลังเป็นที่ติดตามของแฟนคลับ สุดท้ายไม่คิดว่าจะมาจบแบบนี้ ทั้งที่ยังเขียนผลงานเพลงไว้ให้อีกเยอะ อยากให้น้องมีความสุขกับพรสวรรค์ที่ได้มาจากพ่อ

ส่วนปัญหาเหตุจูงใจเชื่อว่ามาจากความคิดของน้องจากความเครียด เกิดอารมณ์ชั่ววูบ เพราะเคยบ่นเครียดกับการเรียน และกลัวไม่จบการศึกษา และเป็นภาระให้ครอบครัว ทั้งที่ครอบครัวให้กำลังใจตลอด ยอมรับน้องพริกเคยบ่นคิดสั้นหลายครั้ง แต่ครอบครัวให้กำลังใจ ไม่คิดว่าจะตัดสินใจคิดสั้นจริงๆ สำหรับเรื่องหนี้สินการเรียนหนี้ กยศ.อาจเป็นส่วนหนึ่งที่น้องคิดมาก เป็นเงินประมาณแสนกว่าบาท และคิดไปเอง เกรงว่าจะเป็นภาระครอบครัวหากไม่จบ ทั้งที่ไม่มีปัญหารุนแรงอย่างที่คิด หากย้อนเวลาได้อยากถามน้องว่า ทำไปเพื่ออะไร ถึงคิดสั้นแบบนี้

ด้าน น้อง บาส อายุ 23 ปี เพื่อนสนิทน้องพริก เปิดเผยว่า ยังรู้สึกช็อกกับเพื่อน หลังทราบข่าวเพื่อนรักมาเสียชีวิตจากการคิดสั้น ยอมรับเคยเล่าปัญหาชีวิตบ้าง การเรียนบ้าง เพราะเป็นคนจริงจังกับชีวิต คาดหวังสูง ดูภายนอกร่าเริง แต่ภายในเราไม่คาดคิดว่าจะเครียด ส่วนเรื่องแฟน เรื่องความรัก เชื่อมั่นว่าไม่น่าเป็นแรงจูงใจคิดสั้น หากจะมีปัญหา เชื่อว่าจะเป็นเรื่องการเรียน เรื่องงาน เพราะเป็นคนจริงจัง ย้ำคิดย้ำทำ อาจคาดหวังสูง และมีปัญหาเป็นโรคซึมเศร้า ช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่เพื่อนให้กำลังใจมาตลอด หากบอกได้อยากบอกพริกว่า เพื่อนทุกคนหวังดี พร้อมเป็นกำลังใจตลอด ทำไมถึงคิดแบบนี้ ไม่ยอมสู้ไปด้วยกัน

ซึ่งก่อนจะมีการฌาปนกิจทางบริษัทประกันชีวิตเอไอเอ ได้มอบเงินสินไหมจำนวน 400,000 บาท ที่พ่อน้องพริกทำไว้ตั้งนานแล้ว จากนั้นก็ราดน้ำมันจุดไฟเผาญาติและเพื่อนต่างปล่อยโฮออกมาดังลั่น ขณะที่แม่เลี้ยงของน้องพริกยังไม่ยอมรับว่าลูกเลี้ยงที่ตนเลี้ยงมาแต่เล็กจนใหญ่ตาย จึงจะวิ่งปรี่เข้าไปในกองฟอนจนญาติรีบประคองตัวนำออกไปจากบริเวณดังกล่าว