วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:23 น.

ภูมิภาค

“ทนายเดชา-นักข่าว”มอบตัวตร. คดี“อัจฉริยะ”แจ้งความเอาผิด

วันพฤหัสบดี ที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2565, 13.59 น.

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ก.ย.65 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมด้วย น.ส.ทิพยาภรณ์ ชาดีกรณ์ อายุ 26 ปี ผู้สื่อข่าวบันเทิง (หมิว ทีวีพูล) เเละทนายความของบริษัททีวีพูล เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ธนะกฤษ รวยอารีย์ รอง ผกก.สส. สภ.พระประเเดง จ.สมุทรปราการ ในคดีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าแจ้งความเอาผิด คดีหมิ่นประมาทตาม พรบ.คอมพิวเตอร์กับบุคคลทั้ง 2 ไว้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

 

     

ทันทีที่เดินทางมาถึง ทนายเดชาได้ยืนไหว้ศาลพระภูมิ บริเวณด้านหน้าโรงพัก เพื่อเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เเละความเป็นศิริมงคล ก่อนจะเดินเข้าห้องผู้กำกับการของ สภ.พระประแดง โดยหลังจานั้นทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระประเเดง ได้เเสดงหมายจับต่อทนายเดชา เเละ น.ส.ทิพยาภรณ์ ซึ่งทนายเดชา เเสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการออกหมายจับ มองว่าต้องการประจานมากกว่าการจับกุม เนื่องจากหลังจากศาลออกหมายจับ มีการส่งให้สื่อมวลชนออกข่าวทันที โดยที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เเละผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็ยังไม่มีใครทราบเรื่อง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับหมายศาลเลย พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา ทางตำรวจชุดสืบสวนก็ชี้เเจงว่าฝ่ายสืบสวนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพิ่งได้รับหมายจับจากพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน

 


       

ทนายเดชา กล่าวกับสื่อมวลชน ยืนยันว่าตนเองไม่เคยได้รับหมายเรียกใดๆ เลย จึงไม่ทราบมาก่อนว่าถูกเเจ้งความดำเนินคดี ส่วน น.ส.ทิพยาภรณ์ ผู้สื่อข่าว ตำรวจได้ส่งเอกสารไปยังที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่จังหวัดปทุมธานี เเต่ตัว น.ส.ทิพยาภรณ์นั้น อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จึงไม่ได้รับหนังสือ อีกทั้งเอกสารดังกล่าวเป็นเพียงหนังสือขอความร่วมมือ ระหว่าง สภ.พระประเเดง กับ สภ.คลองหลวง ซึ่งเป็นที่อยู่ตามบัตรประชาชน ไม่ใช่หมายเรียกเเต่อย่างใด ซึ่งตนเองทั้งสอง มีที่อยู่เป็นหลักเเหล่ง สาธารณชนทราบดี เเต่ทางตำรวจไม่ได้มีการติดต่อมายังที่อยู่ปัจจุบันเลย อีกทั้งตนเองก็ยังไม่ทราบว่าคำพูดที่ทำให้ถูกเเจ้งความ เป็นถ้อยคำใด

 


     

โดยทนายเดชา ระบุว่า หากจะเเจ้งความจับ ให้เเจ้งจับตนเองเพียงคนเดียว อย่าเเจ้งความจับนักข่าว ซึ่งการออกหมายจับนักข่าว ตนเองมองว่าไม่เห็นด้วย "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บัดซบอุบาทว์ที่สุดในประเทศ เพราะประเทศเราคือระบอบประชาธิปไตย นักข่าวคือปากเสียงของประชาชน"

 

    

 

โดยหลังจากนี้ตนเองจะเดินทางไปร้องเรียน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับเรื่องการละเมิดสิทธิ์ประชาชน ละเมิดสิทธิ์สื่อมวลชน  เเละจะไปร้องเรียนคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ของ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ที่อาคารรัฐสภา   เเละจะไปร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายเเรง

 

    

 

ด้าน น.ส.ทิพยาภรณ์ นักข่าวสาว ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้พาดพิงถึงนายอัจฉริยะหรือผู้เสียหายการสัมภาษณ์มันเป็นคำถามที่ตอนนั้นเป็นช่วงคดีดังของคุณแตงโมและคุณแม่แค่นั้นโดยยืนยันว่าไม่ได้มีการพาดพิงถึงนายอัจฉริยะแต่อย่างใด ซึ่งเอกสารที่เกี่ยวกับการแจ้งความนั้นตัวของคนที่เอามาให้ก็เอากลับไปด้วยทำให้ตัวเองไม่รู้การส่วนตัวแล้วคิดว่ากระบวนการในการดำเนินคดีนั้นมันต้องมีขั้นตอนมากกว่านี้แต่จนถึงขณะนี้ยังคงรู้สึกหมุนงงว่าถูกออกหมายจับได้อย่างไรและยืนยันว่าได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

หน้าแรก » ภูมิภาค