วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:36 น.

ภูมิภาค

เริ่มแล้ว! งานไหลเรือไฟนครพนม สุดว้าวที่เดียวในไทย พลุสกาวสวยงามเต็มฟ้า

วันอาทิตย์ ที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 11.21 น.
วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. ณ เวทีกลางบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำข้าราชการเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และตัวแทนภาคประชาชนทั้ง 12 อำเภอ ร่วมเปิดงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ประจำปี 2565 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 ตุลาคม 2565 รวม 11 วัน 11 คืน โดยมี นางสาว กนกพร ไชยศล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครพนม กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานประเพณีออกพรรษาปีนี้ ก่อนจะเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟ ประจำปี 2565 ด้วยพลุอันสวยสกาวเต็มท้องฟ้า
ส่วนไฮไลท์ของงานเป็นคืนวันออกพรรษา วันที่ 10 ตุลาคม 2565 เพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 โดยมีการประกวดเรือไฟประยุกต์ทั้งหมด 12 ลำ จากตัวแทนชาวบ้านทั้ง 12 อำเภอ มีความยาวตั้งแต่ 50–80 เมตร ความสูงประมาณ 20-30 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟโบราณ ประมาณลำละ 20,000 30,000 ดวง ที่เกิดจากกลุ่มชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกัน ต่อเติมเรือไฟ จากพลังศรัทธา ที่สืบสานกันมาแต่โบราณ ตั้งแต่การทำเรือไฟโบราณ จนกระทั่งพัฒนามาเป็นเรือไฟประยุกต์ โดยทุกลำเกิดจากความร่วมมือร่วมใจ ไม่เน้นค่าจ้าง รางวัล เป็นการสืบสานความภาคภูมิใจ ประเพณีโบราณของจังหวัดนครพนม
 
เริ่มงานวันแรกเต็มไปด้วยความคึกคักต่างมีประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยชาวลาว เดินทางมาชื่นชมความสวยงาม อลังการที่เดียวในไทยของเรือไฟโชว์ โดยทางจังหวัดนครพนม ได้จัดให้มีการไหลเรือไฟโชว์ทุกคืนๆละ 1 ลำ เป็นการประชาสัมพันธ์ ดึงดูดเชิญชวนนักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวชมงานในวันไฮไลท์ของงานคือวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่จะมีการประกวดเรือไฟขนาดใหญ่ทั้งหมด 12 ลำ
 
สำหรับเรือไฟโชว์คืนแรกวันเปิดงาน มีขนาดความยาว ประมาณ 35 เมตร ความสูงประมาณ 15 เมตร ประดับด้วยตะเกียงไฟประมาณ 5,000 ดวง ถือเป็นเรือไฟโชว์ขนาดเล็ก ที่ร้อยเรียงตะเกียงไฟโบราณออกมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของ จ.นครพนม คือ องค์พระธาตุพนม รวมถึงสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผสมผสานประเพณีความเชื่อ ความศรัทธาของชาว จ.นครพนม และเป็นสัญลักษณ์รูปเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ รวมถึงประดับตะเกียงไฟเป็นรูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 แสดงออกถึงความจงรักภักดี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวสุดคึกคัก มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาในพื้นที่ มากขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด ทำให้ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พักถูกจับจองเต็ม
 
ด้าน นายพนม พุทธา อายุ 54 ปี ศิลปินเรือไฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนบก ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าปีนี้ งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ปีนี้คึกคักจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หลัง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด ทำให้บรรยากาศซบเซา แต่ปีนี้ ชาวบ้าน 12 อำเภอ ต่างแสดงออกถึงพลังศรัทธา ความรักสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกัน สร้างเรือไฟขนาดใหญ่ ทุ่มทุนสร้างลำละ 5 แสนถึงล้านบาท จากพลังศรัทธา รวมถึงงบประมาณภาครัฐบางส่วน โดยไม่ได้หวังถึงค่าจ้างแรงงาน และเงินรางวัล  แต่เน้นเรื่องของความภาคภูมิใจ พลังศรัทธา ที่ได้ร่วมกัน สร้างเรือไฟให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมความสวยงามที่เดียวในโลก ทำให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้รับรู้ว่ากว่าจะเป็นเรือไฟที่ไหลโชว์กลางลำน้ำโขง จะต้องใช้ความพยายาม ต้องมีความสามัคคี ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ตั้งแต่การต่อเติมสร้างเรือไฟ การออกแบบลวดลายเรือไฟ จนถึงการประดิษฐ์ตะเกียงไฟโบราณ ที่นำไปร้อยเรียงประดับตกแต่ง ออกมาเป็นภาพต่างๆ ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ความสวยงาม อลังการของเรือไฟ และตะเกียงไฟทุกดวงจะต้องจุดด้วยมือของบรรดาศิลปินเรือไฟทีละดวง ก่อนที่ส่องสว่างสวยงาม ฝากประชาชน นักท่องเที่ยว ห้ามพลาด มาเที่ยวชมการประกวดไหลเรือไฟ ในคืนวันออกพรรษา รับรองปีนี้ไม่ผิดหวังยิ่งใหญ่กว่าทุกปี

หน้าแรก » ภูมิภาค