ครูหนก หรือนายกนก กุลวงศ์ อายุ 56 ปี  หรือชื่อในการวงการมวยจะรู้จักกันในชื่อก้องนภา แฟร์เท็กซ์ หนึ่งในอดีตยอดมวยและครูมวย ลูกครึ่งไทยลาว ผู้เคยผ่านการเรียนมวยจากสหภาพรัสเซีย แต่มีใจรักในมวยไทย จึงได้ตัดสินใจมาปักหลักค้ากำปั้นและเป็นเทรนเนอร์ให้นักมวยชื่อดังหลายคน ปัจจุบันได้เป็นหัวเรือหลักในค่ายมวยศิษย์โสภณ แหล่งเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยของเทศบาลตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม 

 

โดยพ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) ส.ส.นครปฐม เขต 1 ในฐานะนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย ปั้น ณัทกร แก้วพิจิตร อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครปฐม ได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่และให้กำลังใจกับ ครูหนก หรือก้องนภา ที่ได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการจัดการเรียนการสอนแม่แม้มวยไทยให้กับนักเรียนและประชาชนที่สนใจ โดยนายพิทักษ์พล ตัณกิตติวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลโพรงมะเดื่อ หรือนายกเบส ได้นำชมกิจกรรมการรวมพลังเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืน ของตำบลโพรงมะเดื่อ ซึ่งเปิดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับให้ประชาชนได้มีโอกาสในการออกกำลังกาย 

 

นายกนก กุลวงศ์ อายุ 56 ปี หรือครูหนก กล่าวว่า ครอบครัวของตนเองเป็นนักกีฬามวยมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ซึ่งตนเองได้เติบโตจากนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งได้ฝึกวิชามวยสากลมาตั้งแต่เด็กจนได้รับการคัดตัวเป็นตัวแทนไปเรียนการชกมวยสากลและชกแข่งที่ประเทศรัสเซีย รวมถึงที่ปักกิ่ง สป.จีนมาแล้ว แต่ได้ตัดสินใจเข้ามาปักหลักในประเทศไทยเพื่อเรียนมวยไทยเพิ่มเติมก่อนจะออกไปชกเป็นอาชีพในชื่อ ก้องนภา แฟร์เท็กซ์ ซึ่งเมื่อเลิกได้มาเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักมวยระดับแชมป์ชื่อดังหลายคน

 

“หลังผมเลิกชกก็มาสอนมวย ซึ่งตอนนี้ได้สอนให้เด็กและเยาวชนไปทำการแข่งขัน หลายคนที่เอาวิชามวยไปสานต่อเข้าโควต้าจนเรียนจบปริญญา และยังมีสายมวยอาชีพด้วย แต่ที่กำลังได้รับความนิยมคือการออกกำลังกาย ช่วงเย็นทุกวันจะมีคนมาเรียนด้วยหลายสิบคน ซึ่งก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และต้องไปหางานทำทุกอย่างเพื่อหารายได้มาช่วยหาอุปกรณ์มาทำการสอนให้คนในชุมชนบ้าง อุปกรณ์บางอย่างก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานบ้าง ผมเกิดมาจากมวยก็ขอตายไปพร้อมมวยทุกวันนี้ทำเพราะใจรักจริงๆ” ครูหนก กล่าวปิดท้าย 

 

พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) ส.ส.นครปฐม เขต 1 เผยว่าได้ทราบว่าที่ตำบลโพรงมะเดื่อมีครูมวยที่เก่งและประชาชนได้ให้ความสนใจมาเรียนและออกำลังกายกันมาก ตนเองในฐานะนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครปฐม จึงอยากจะเข้ามาติดตามดูพัฒนาการของการส่งเสริมกีฬาในระดับชุมชน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีของประชาชนในทุกมิติ โดยกีฬานอกจากจะเป็นการทำให้เกิดสุขภาพที่ดีแล้วยังทำให้เกิดการเรียนรู้กระบวนการสร้าวินัยและการสร้างความสามัคคีในชุมชน ซึ่งตอนนี้ได้มอบหมายให้ ปั้น ณัทกร แก้วพิจิตร อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครปฐม ได้เข้ามาสานต่อการทำงานเพื่อผลักดันการกีฬาและยกระดับนักกีฬาในจังหวัดนครปฐม ทุกประเภทกีฬาให้เกิดขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อไป 

 

ด้านปั้น ณัทกร แก้วพิจิตร อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สำหรับการได้เข้ามาดูการทำงานของค่ายศิษย์โสภณ ได้เห็นว่าการกีฬานั้นได้เข้าถึงชุมชนในระดับท้องถิ่นอย่างมีระบบซึ่งจะนำเอาข้อมูลการสนับสนุนการผลักดันเข้าสู่สภาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครปฐมเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการทำงานของสมาคมฯต่อไป ทั้งนี้จะขอประสานงานเพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาผลักดันแล้วเฟ้าดาดาวรุ่งเพื่อนำไปสู่การต่อยอดให้กับงการกีฬาของจังหวัดนครปฐมและในระดับชาติต่อไป และจังหวัดนครปฐม มีนักกีฬาระดับโลกหลายคนที่เป็นดาวรุ่งจากเด็กในท้องถิ่นของเราเอง