วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:42 น.

ภูมิภาค

ชาวปทุมธานีห่วงอนาคตเยาวชน นักเรียนขาสั้นไล่ตีกันหลังเลิกเรียน

วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 17.49 น.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม 2565  ชาวบ้านร้านค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานีเป็นห่วงปัญหาเด็กนักเรียนไล่ตีกัน จากที่มีการเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มเด็กนักเรียนขาสั้นมัธยมชายประจำจังหวัดกลุ่มใหญ่ไล่ตีกันบริเวณ ท้ารถเมล์สายรังสิต สาย 33 สายนพวงศ์ เขตเทศบาลเมืองปทุมธานี ถนนเจริญผลวัฒนา ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เหตุเกิดหลังเลิกเรียนในช่วงเย็น โดยนักเรียนจะเริ่มรวมตัวตีกันหนักมากขึ้นมีอาวุธครบมือ ไม่ว่าจะเป็นระเบิดปิงปอง ปืนปากกา มีดพร้ามด้ามยาว ไล่ตีกันและวิ่งไล่กวดกันไปมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาในที่เกิดเหตุ เหล่านักเรียนที่ก่อเหตุก็ได้แยกย้ายกันแล้ว
 
จากการสอบถาม ป้าเขียว (นามสมมุติ) ขายขนมตรงข้ามตลาดหน้าโรงเก่าเจริญผลรามา กล่าวว่า พึ่งจะเกิดเหตุนักเรียนไล่ตีกันเมื่อ 2 วันก่อน โดยเกิดเหตุบริเวณข้างโรงหนังเก่า ซึ่งพักนี้เกิดเหตุบ่อยครั้ง ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นเด็กจากที่ไหนมากันเยอะมาก เท่าที่เห็นเป็นเด็กนักเรียนขาสั้นชั้นมัธยมฯ อาจจะมีนักเรียนอาชีวะด้วยนิดหน่อย โดยวิ่งกระจายอยู่แถวนี้รอบๆตลาด บางส่วนก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หนี ฉันเห็นก็ไม่รู้จะทำไงได้ ก็ได้แต่โทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าตำรวจจะมา ก็ไปกันหมดแล้ว ไม่เคยทันเด็กเลย อยากฝากถึงเด็กเยาวชนที่ยังจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ขอให้เลิกเถอะ พิการไป พ่อแม่จะแย่ ต้องมาให้พ่อแม่มานั่งเลี้ยง หวังไปให้เรียนแล้วจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้
 
นางสมใจ (นามสมมุติ) ร้านขายเสื้อผ้า กล่าวว่า ก็มีเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทไล่ตีกันเรื่อย ๆ ตามสไตล์วัยรุ่น ช่วงที่โรงเรียนเปิดก็จะเป็นแบบนี้ตลอด เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่จะเตือนเขาก็ไม่ฟันเรา ด้วยความที่เขาเป็นวัยรุ่น แต่คนที่จะดูแลเขาได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่ พ่อแม่เป็นกำลังสำคัญที่จะต้องดูแลเขา และคอยเตือนเขา ไม่ใช่ว่าลูกฉันเป็นเด็กดีตลอดเวลา ควรจะต้องดูแลลูกให้มากที่สุด
 
ป้าแตง (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายอาหารในตลาด กล่าวว่า ไม่เห็นตอนที่นักเรียนตีกัน เห็นแต่เขาวิ่งหนีผ่านหน้าร้าน โดยเขาก็วิ่งหนีกันไปเป็นกลุ่ม ๆ ของเขา เห็นแบบนี้แล้วก็สงสารพ่อแม่เพราะว่าเด็กดื้อมีเยอะ อนาคตของเด็กคงไปได้ไม่ไกล ต้องให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเขาเตือนลูกหลานเขากันเอง
 
นางส้ม (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายของชำข้างท่ารถประจำทาง กล่าวว่า เราเองเป็นคนที่นี้ก็ไม่อยากไปเกี่ยวข้องกันเรื่องพวกนี้ เพราะเวลาวัยรุ่นตีกันแล้วน่ากลัว ช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ที่นักเรียนกลับมาตีกัน บางครั้งหลบกันแทบไม่ทัน เด็กนักเรียนที่ตีกันเป็นนักเรียนในระแวกนี้ เราก็สงสารพ่อแม่เขาที่ส่งให้เรียนไม่เรียน เด็กสมัยนี้เตือนก็ไม่ได้ หากไปเตือนก็จะย้อนมาว่าเราอีก ได้แต่คอยหลบเดี๋ยวจะถูกลูกหลง.

หน้าแรก » ภูมิภาค