เวลา 08.00 น. วันที่ 23 ม.ค.66 นายวินัย ไม่เปิดเผยนามสกุล สหภาพแรงงานยานยนต์อมตะนคร นำแรงงานชายหญิงเกือบ 700  คน ของส่วนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ส่งออกต่างประเทศ ของ บ.ไทยคิคูวา อินดัสตรี้ จำกัด พร้อม  บ.ชินเนอยี่ ดับเบิ้ลยู พรีชิชั่น จำกัด และ บ.คิคูวา (ประเทศไทย)จำกัด ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี ร่วมใจกันเดินขบวนจากตลากนินจา ถ.บายพาส อ.เมือง จ.ชลบุรี มาตามถนนสุขุมวิท ไปที่หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี ระยะทางกว่า 10 กม. หลังได้รับความเดือดร้อนจากการที่ 3 โรงงานนี้ ซึ่งมีนายจ้างเป็นชาวญี่ปุ่น ประกาศให้พนักงาน 654 คน หยุดงานโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย พร้อมกับไม่จ่ายค่าแรงงานที่ทำไว้ ไปเมื่อกลางปี 65  จนกระทั่งปัจจุบัน สร้างความเดือดร้อนทำให้พนักงานเหล่านี้ ทั้ง ไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว เป็นหนี้ ต้องกู้เงินนอกระบบ ไม่มีงานทำเป็นต้น นอกจากนี้ ทั้ง 3 บริษัทนี้ ยังเปิดโรงงานตามปกติ  แต่ไม่ยอมรับพนักงาน 654 คนนี้เข้าทำงาน พร้อมกับเบี้ยวจ่ายเงินค่าแรงไปด้วย

 

นาย วินัย กล่าวว่า จึงมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้อง ให้ นาย ธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี เจรจากับ นายจ้างทั้ง3 โรงงาน เพื่อเร่งหาแนวทางยุติปัญหา 3 ข้อคือ เจรจาไกล่เกลี่ยจ่ายค่าแรงงานตามจริงและรับพนักงานเหล่านี้ล กลับเข้าทำงานตามเดิม  เร่งแก้ปัญหาหญิงที่ตั้งครรภ์ ลาคลอดในช่วงนายจ้างปิดโรงงาน และแก้ปัญหาหารสถานที่ที่ใข้ในการชุมชุนที่เหมาะสม ต่อมา นายนริศ นิรามัยวงศ์ รอง ผวจ.ชลบุรี เดินทางเข้ามารับใบแถลงการณ์จากนายวินัย พร้อมกับให้ส่งตัวแทน 13 คน เข้าไปประชุมเจรจาที่ห้องประชุมชลบุรี เป็นเวลากว่า 1  ชม.

นายวินัย กล่าวว่า หลังเจรจา นายนริศ รอง ผวจ.ชลบุรี ได้ให้คำมั่นกับเหล่าแรงงานว่า วันพุธที่ 25 ม.ค.นี้ นายจ้างชาวญี่ปุ่น จะยอมเดินทางมาเจรจากับตัวแทนแรงงาน เพื่อหาข้อยุติอย่างชัดเจน ที่ศาลากลางชลบุรี ทำให้เหล่าแรงงานเกือบ 700 คน รู้สึกประทับใจ จึงยอมแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน และจะมารวมตัวเพื่อเจรจากับนายจ้างในวัยพุธ 25 ม.ค.ต่อไป

พร้อมกับ นำใบแถลงการณ์มาเปิด ชี้แจงว่า เรื่อง ขอให้บริษัทฯ เข้าร่วมการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน เพื่อยุติการปิดงานสมาชิกและพนักงานจำนวนกว่า 600 คนโดยเร็วที่สุด ด้วยสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 นั้น สหภาพแรงงานมีวัตถุประสงค์เพื่อ แสวงหาและคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และระหว่างลูกจ้างด้วยกัน ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นพนักงานจาก บริษัทไทยคิคูวา อินดัสทรีส์ จำกัด บริษัท ชินเนอร์ยี่ ดับเบิ้ลยู พรีชิชั่น จำกัดและบริษัท คิคูวา (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมเป็นสมาชิก ได้แจ้งข้อเรียกร้องต่อบริษัทฯเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 แต่ไม่สามารถตกลงกันได้นำสู่การแจ้งพิพาทแรงงาน ในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนั้น

 

บริษัทฯได้มีการแจ้งข้อเรียกร้องต่อพนักงานที่มีรายชื่อแนบท้าย จำนวน 821 คน จำนวน 6 ข้อ ให้พนักงานยอมรับในข้อเรียกร้องของบริษัทฯ เมื่อไม่มีพนักงานเป็นตัวแทนเจรจาข้อเรียกร้องของบริษัทฯ บริษัทฯจึงแจ้งข้อพิพาทต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทในข้อเรียกร้องของบริษัทฯ และบริษัทไม่ส่งผู้มีอำนาจตัดสินใจมาเจรจากับตัวแทนสหภาพฯ ในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ได้แจ้งปิดงานมายังสมาชิกสหภาพฯและพนักงานที่ไม่ลงชื่อรับข้อเสนอของบริษัทจำนวน 654 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป แม้จะมีการนัดไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน แต่บริษัทฯไม่ส่งผู้แทนที่มีอำนาจตัดสินใจได้ มาร่วมเจรจา และยังยืนยันในข้อเรียกร้องของบริษัทฯฝ่ายเดียว โดยไม่ประสงค์จะเจรจาข้อเรียกร้องของสหภาพฯแต่อย่างใด

 

บัดนี้เป็นเวลากว่า 22 วันแล้วที่คนงานจำนวน 600 กว่าคน ไม่ได้รับค่าจ้าง งดการจ้างงาน ซึ่งการปิดงานอย่างกะทันหันครั้งนี้ทำให้พนักงานได้รับความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ประกอบกับพนักงานทุกคนมีภาระที่ต้องดูแลครอบครัว มีลูกเล็กที่ต้องดูแล หรือที่อยู่ระหว่างศึกษาเล่าเรียน บางคนมีภาวะป่วยเรื้อรังต้องรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่มีรายได้ ส่งผลให้คนงานกลุ่มนี้มีความเดือดร้อนและทุกข์ทั้งกายใจ และการชำระหนี้สินต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นความเดือดร้อนที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวพนักงานที่เกี่ยวข้องอีกนับพันคน แม้ว่าสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ไทยจะพยายามใช้หลักสุจริตใจในการเจรจามุ่งเน้นการสร้างแรงงานสัมพันธ์แบบทวิภาคี เพื่อให้การเจรจาทั้งสองฝ่ายเกิดความเข้าใจและได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายนั้น แต่ก็ไม่เป็นผลนายจ้างยังต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างฝ่ายเดียว เงื่อนไขให้บริษัทฯสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างต่างๆได้โดยฝ่ายเดียว รวมถึงสัญญาข้อตกลง 3 ปี ทำให้สหภาพฯไม่ยอมรับข้อเสนอสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ที่เป็นการผูกมัดพนักงานไม่สามรถเรียกร้องหรือใช้สิทธิตามที่กฎหมายได้ให้ไว้ในฐานะองค์กรสหภาพแรงงนได้ อีกทั้งสหภาพฯมีความเชื่อมั่นในหลักการเจรจา แม้ว่าสหภาพฯจะสามารถใช้สิทธินัดหยุดงานต่อบริษัทฯได้ หากการไกล่เกลี่ยไม่สามารถหาข้อยุติได้ภายใน 5 วัน แต่สหภาพฯหาได้ใช้สิทธินั้นไม่ แต่ไม่อาจทำให้บริษัทฯยอมรับข้อเสนอของสหภาพฯ แต่กลับใช้สิทธิปิดงานพนักงานกว่า 654 คนแทน

 

ดังนั้น สหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ให้ความกรุณา ดำเนินการช่วยเหลือจากหนังสือที่ทางกลุ่มสหภาพแรงานภาคตะวันออกได้ยื่นต่อท่าน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ไปแล้วนั้น ดังนี้ 1. เร่งหาแนวทางเพื่อให้นายจ้างผู้มีอำนาจตัดสินใจ มาเจรจาไกล่เกลี่ยและหาข้อยุติและรับพนักงานกลับเข้าทำงานตามเดิม 2. เร่งแก้ปัญหาเรื่องสมาชิกหญิงที่ตั้งครรภ์ ลาคลอด ในช่วงที่นายจ้างปิดงาน 3. ปัญหาสถานที่ที่ใช้ในการชุมนุมหลังจากนายจ้างได้ปิดงานสหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ไทยจึงขอความอนุเคราะห์จากท่าน ในการประสานให้ความช่วยเหลือในประเด็นเร่งด่วนข้างต้น อันจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือ สร้างระบบแรงงานสัมพันธ์อันดี และให้บริษัทฯใช้หลักการเจรจาโดยสุจริตใจ จะเป็นผลดีทั้งสองฝ่าย ทำให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย ทางสหภาพฯซึ่งเป็นตัวแทนพนักงาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการช่วยเหลือ จึงขอขอบคุณมายังท่าน ในฐานะพ่อเมืองที่ช่วยทำให้ความทุกร้อนของประชาชนหมดสิ้นไป

 

"ความมั่นคงของคนทำงาน  คือความมั่นคงของชาติ" ด้วยความสมานฉันท์ สหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ไทย 16 มกราคม พ.ศ.2566