เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 1 ก.พ. นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายธวัชชัย กรเพชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และกำลังกองร้อย อส.อ.เมืองตรัง ที่ 3 เข้าตรวจสอบร้าน pop up (ป๊อบอัพ) เลขที่ 11 ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง หลังได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่ามีนักเรียนนำบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบในสถานศึกษา

จากการตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้ามือสอง และมีร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ด้านใน พบนายเรวัฒน์ วงค์วิวัฒน์ อายุ 31 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ ก่อนจะพบของกลางจำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้า (ชนิดสูบแล้วทิ้ง 2000 คำ) จำนวน 269 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า (ชนิดเปลี่ยนหัว) จำนวน 32 ชิ้น ตัวเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 32 ชิ้น อุปกรณ์ (คอย) สำหรับตัวเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 110 ชิ้น อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนหัวบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 44 ชิ้น และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงได้ทำการยึดของกลางและจับกุมตัว นายเรวัฒน์ มาทำบันทึกจับกุม ที่ที่ว่าการอำเภอเมืองตรัง โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
 

ขณะเดียวกันระหว่างที่มีการตรวจค้นได้มีกลุ่มนักเรียนประมาณ 6 คน ได้จอดรถ จยย.หน้าร้าน เพื่อที่จะเดินเข้าไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบถามนักเรียนรายหนึ่ง อายุ 15 ปี บอกว่า ตนเคยมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่ร้านแห่งนี้ รู้จักร้านนี้เพราะมีเพื่อนแนะนำมา ซึ่งซื้อมาแล้วประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงมากอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท โดยก็มีเพื่อนจำนวนหนึ่งมาซื้อร้านนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีร้านอื่นๆอีกหรือไม่ตนก็ไม่รู้ เพราะมาซื้อในร้านนี้ร้านเดียว ก่อนที่ทางปลัดอำเภอจะทำการว่ากล่าวตักเตือน และลงโทษด้วยกันให้เด็กและเยาวชนกลุ่มดังกล่าว ทำการดันพื้น คนละ 10 ครั้ง
 

ด้าน นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องจากทางโรงเรียนและผู้ปกครอง จึงได้มีการประชุมหาทางออกร่วมกัน และได้นำมาสู่ได้ดำเนินการเข้าจับกุมโดยทันที เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างปัญหาความเดือดร้อน ให้กับเด็กนักเรียนและเยาวชนเป็นอย่างมากในสถานศึกษา และอีกทั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาด้วยเช่นกัน
 

ขณะที่ นายยงยุทธ (สงวนสกุล) อายุ 50 ปี คุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า จริงๆแล้วทางโรงเรียนได้สุ่มตรวจกระเป๋านักเรียนอยู่เป็นประจำ หากพบบุหรี่ หรือสารเสพติด ก็จะแจ้งผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับทราบและแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่นการให้พักการเรียน และบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าถือว่ามาแรงในปัจจุบัน ซึ่งที่พบมีเยอะในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยม และที่น่าเป็นห่วงก็พบในระดับชั้น ป.5 และ ป. 6 เช่นเดียวกัน เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ ในช่วงโควิด-19 ที่มีการเรียนการสอนออนไลน์ ทางโรงเรียนไม่สามารถควบคุมนักเรียนได้ ซึ่งกระทำได้แค่ภายในโรงเรียน อยากฝากเตือนให้ทุกโรงเรียนตรวจค้นและควบคุมดูแลนักเรียน เพื่อเป็นการป้องกันให้กับเด็กและเยาวชน เพราะเด็กในช่วงนี้จะอยากรู้อยากเห็นอยากลองและตามเพื่อน ซึ่งเด็กที่มีการสูบบุหรี่จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม
 

เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา นายเรวัฒน์ วงค์วิวัฒน์ เจ้าของร้าน ในข้อกล่าวหา 1. ขาย หรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งห้ามขาย หรือห้ามให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 29/9 มาตรา 56/4 และคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ลงวันที่ 28 มกราคม 2558 2. ซ่อนเร้น จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืน พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ก่อนจะนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป