เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 เม.ย.66 นายสมพร  บุญคงมา  อายุ 54 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 3 พรรค “ไทยสร้างไทย” ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์ เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยทีมงานทำการจุดไฟเผาป้ายหาเสียงโดยติดตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวังตะกอ  อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นสี่แยกใหญ่บนถนนสายเอเซีย 41มีรถสัญจรผ่านพลุกพล่านสามารถมุ่งหน้าไปยัง14 จังหวัดภาคใต้และจังหวัดระนอง  ทั้งนี้เผาเพื่อแสดงสัญญาลักษณ์จำนวน 4 ป้าย และฉีกป้ายที่ติดตั้งกับรถหาเสียงอีกจำนวน 2 ป้าย 

     

โดยนายสมพร หรือที่ชาวบ้านรู้จักในนาม “พรเทวา” กล่าวว่า“ผมมีความอึดอัดใจ ทำงานกับพรรค “ทำสร้างไทยมา 1 ปีเต็ม วันที่มาทำงานกับพรรคผมบอกกับพรรคแล้วว่า ไม่สามารถล้ม ส.ส.เก่าได้ แต่ถามว่าคะแนนปาร์ตี้ลีสต์ 8,000 เสียง ผมทำได้และเชื่อมั่น แล้วพรรคก็รับปากว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายตาม กตต.กำหนด แต่มาวันนี้ผมหมดไปมาก แต่พรรคดูแลผมตั้งแต่วันแรกเป็นเงิน 350,000 บาท มาทำบำนาญประชาชนทั่วประเทศคนละ 10,000-20,000 รายชื่อ 

 

นายสมพร กล่าวอีกว่า  “จนกระทั่งพรรคได้รายชื่อผู้สนับสนุนนโยบายบำนาญประชาชนอยู่ที่ 5,000,000 รายชื่อ ซึ่งรายชื่อดังกล่าวมาจากผู้สมัครเขตทุกคนร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันหาสมาชิก แต่พรรคไม่เคยเหลียวแลดูแลเรา เพียงเงิน 350,000 บาท เอาไปทำป้าย 400 แผ่นก็ไม่เพียงพอ  ทั้งค่าจ้างปัก ค่าไม้ ทั้งนี้ผมได้เจรจากับพรรคมาประมาณ 4-5 วัน จนกระทั้งขีดเส้นใต้ให้กับพรรคว่า วันที่ 24เวลา 17.00 น. ถ้าผมยังไม่ได้รับคำตอบคือ   ต้องการให้พรรครักษาสัญญา ว่าจะดูแลผู้สมัครตามกตต.หรือตามกฎหมายกำหนด แต่พรรคไม่ได้รักษาสัจจะ  เพราะฉะนั้นผมเดินกับพรรคนี้ไม่ได้แล้ว  ณ วันนี้ผมยังอยู่ในผู้สมัครยังไม่สามารถลาออกจากพรรคได้ เลือกตั้งเสร็จวันไหนผมลาออกทันที

 

นายสมพร  กล่าวอีกว่า และขอสาบานไม่ว่าวันนี้หรืออนาคตผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรค  พรรคนี้ ถือว่าหลอกลวงประชาชนแม้แต่ผู้สมัครส.ส.ทำงานให้พรรค พรรคยังหลอกได้ นับประสาอะไรกับพี่น้องประชาชน  นี่คือความอัดอั้นตันใจของผม ที่ได้กระทำวันนี้ เมื่อวานผมถอดเสื้อปลดป้ายที่ทำการสาขาพรรคพร้อมกับเผาบัตรบำนาญประชาชน และบัตรสมาชิก และนี่คือภารกิจสุดท้ายที่ต้องทำเพื่อให้พรรคหรือไม่ใช่พรรคนี้ได้สะท้อนเห็นว่า การไม่จริงใจกับผู้สมัคร ไม่จริงใจกับพี่น้องประชาชน พรรคจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย  ผมเป็นเพียงผู้สมัครตัวเล็กๆไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมาย แต่ผมกล้าแลก  กล้าวัด  กล้าชน  คนอย่างผมพรเทวาไม่กลัว  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมขอรับผิดชอบสิ่งที่ผมทำ ณ วันนี้ขอบคุณครับ”

 

นายสมพร  กล่าวเพิ่มเติมว่า ป้ายที่ได้เผาเชิงสัญญาลักษณ์นั้น ยังติดตั้งอยู่สภาพเดิมให้เห็นรอยไหม้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างผู้สมัครกับพรรค ผมยันว่าไม่ได้มีปัญหากับผู้สมัครพรรคอื่นแต่อย่างใด ไม่ได้มีปัญหากับผู้บริหารหรือกับใครสักคน แต่ผมต้องทำตามที่ผมอึดอัดใจ พรรครับปากแล้วแต่ไม่สามารถทำตามสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับผู้สมัครได้ ไม่ใช่เฉพาะในจังหวัดชุมพรทุกจังหวัดก็มีปัญหาแนวเดียวกันหมด  พรรคดูแลมากที่สุดคาดว่าไม่เกิน 500,000 บาท  ผมซึ่งจัดอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.เกรดบี ได้เพียง 350,000 บาท แล้วถามว่าผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจะเหลือเท่าไหร่ฉนั้นเขาไม่เห็นใจเราค่าใช้จ่ายต้องควักกระเป๋าเอง ก่อนหน้านี้ทำงานลงพื้นที่ทุกวัน ไม่เคยให้ลูกน้องแจกโบชัวร์ โดยผมแจกเองทุกหลังคาเรือน ทุอย่างพร้อม รถแห่พร้อม  ผมเป็นนักต่อสู้ กล้าลงทุน แต่อย่ามาหลอกลวง อย่ามาไร้สัจจะ คนใต้รับไม่ได้และไม่ใช่เฉพาะคนใต้ ผมเชื่อว่าการหลอกลวง การไม่จริงใจคนภาคไหนก็รับไม่ได้” 

 

หลังจากนั้น นายสมพร หรือพรเทวา ผู้สมัครพรรค “ไทยสร้างไทย” เขต 3 ชุมพร ได้ฉีกป้ายที่ติดตั้งกับรถหาเสียงอีกจำนวน 2 คันที่จอดอยู่บริเวณริมถนนใกล้จุดติดตั้งป้าย ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงาน กกต.จว.ชุมพร (กกต.) เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผู้อำนวยการติดประชุมราชการไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

 

สำหรับประวัติ นาย สมพร เกิด เมื่อ 10 เมษายน 2512 ณ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบัน อายุได้ 52 ปี ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่อาศัย ณ จังหวัดชุมพร เมื่อ ปี พ.ศ. 2532 –2564 เป็นเวลาได้ 34 ปี การศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนทิพย์กองลาศวิทยา อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราชระดับมัธยมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 5 โรงเรียนโยธินบำรุง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชระดับอาชีวศึกษา โรงเรียนรักธรรมบริหารธุรกิจ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ระดับอุดมศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชอัฏ เพชรบุรี

 

ประวัติกิจกรรมพัฒนาสังคม ได้รับการคัดเลือกให้เป็น ประธานกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดชุมพร ระหว่างปี พ.ศ. 2555 – 2559 รวม 2 วาระ 4 ปี  ได้รับการคัดเลือกให้เป็น ประธานชมรมชาวนครศรีธรรมราชในจังหวัดชุมพร ระหว่างปี พ.ศ.2555 – 2560 ได้รับการคัดเลือกให้เป็น นายกสมาคมชาวนครศรีธรรมราชในจังหวัดชุมพร ระหว่างปี พ.ศ.2560 – ปัจจุบัน ประธานฝายมีชีวิต จังหวัดชุมพร ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน วิทยากรอาสา ประจ าศูนย์เรียนรู้บ้านพะงุ้น อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ปราชญ์ชาวบ้าน (เศรษฐกิจพอเพียง -ฝายมีชีวิต ตามแนวพระราชดำริพ่อหลวงรัชกาลที่ 9)

 

ประวัติกิจกรรมช่วยเหลือสังคม จัดกิจกรรม “โครงการรวมน้ าใจสานฝันเพื่อน้อง” จัดกิจกรรม “ปรับปรุงศาลาพระครูพิทัษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย)” จัดกิจกรรม “โครงการส่งเสริมสัมพันธอาพในครอบครัว” จัดกิจกรรม “ปันน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม จัดกิจกรรมมอบหน้ากากอนามัยให้แก่โรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดชุมพร

 

ประวัติกิจกรรมทางการเมือง ลงแข่งขันในทีมการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดชุมพร ตำแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563