นครราชสีมา วันนี้( 20 พฤษภาคม 2566) จากกรณีพรรคก้าวไกล ได้บรรลุข้อตกลง ที่จะดึงพรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง เข้ามาร่วมรัฐบาล เพิ่มจาก 314 เสียงเป็น 316 เสียง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์จากฝั่งที่ลงคะแนนให้ ถึงการดึงพรรคชาติพัฒนากล้ามาร่วมรัฐบาล ไปจนถึงมีการตั้งข้อสงสัยถึงจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคก้าวไกลเคยประกาศว่า จะไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับทุกพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ ซึ่งส่งผลให้แฮชแท็ก #มีกรณ์ไม่มีกู #ชาติพัฒนากล้า ขึ้นเทรนด์อันดับที่ 1 ของทวิตเตอร์ไทยแลนด์เมื่อวานนี้(19 พฤษภาคม 2566) และล่าสุดวันนี้ (20 พฤษภาคม 2566) โลกออนไลน์และทวิตเตอร์ยังคงร้อนแรงมาก  พร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #กูไม่เอาพรรคใหม่  ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับที่ 1 ของไทย จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่เกิดขึ้น เมื่อวานนี้ พรรคก้าวไกล จึงโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊คของพรรคฯ  ระบุว่า “สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคก้าวไกล ได้เจรจากับพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อตกลงโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมรัฐบาล กรณีดังกล่าว ได้ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค คณะทำงานจังหวัด และสมาชิกพรรค ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ไม่สามารถยอมรับการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติพัฒนากล้าได้ นอกจากนี้ ในที่ประชุมร่วมของว่าที่ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ก็มีมติสอดคล้องกับประชาชนว่าไม่สามารถยอมรับได้เช่นกัน
 
 
ด้วยเหตุนี้ กรรมการบริหารพรรค จึงน้อมรับมติดังกล่าวมาปฏิบัติ เราจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า และจะเดินหน้าพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ได้เสียงพอในการโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด  พรรคก้าวไกลขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และกราบขออภัยประชาชน ที่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล จะทำบนพื้นฐานจุดยืนทางการเมือง นโยบายหลักของพรรคตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ รวมถึงขอโทษพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ต้องยุติการเจรจาครั้งนี้ และสุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค และว่าที่ผู้แทนราษฎรก้าวไกลทุกคน ที่คอยตรวจสอบ ท้วงติงการทำงานของผู้บริหารพรรค เพื่อให้พรรคยืนหยัดในจุดยืน อุดมการณ์เดิมอย่างมั่นคง”
“พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค”
 
 
ในขณะที่พรรคก้าวไกล นครราชสีมา ก็ได้ออกแถลงการณ์เรื่องไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า โดยข้อความระบุว่า “ตามที่มีกระแสข่าวถึงการที่พรรคก้าวไกลจะร่วมรับบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้าในเวลานี้ พวกในนามของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา ได้แก่ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา และคณะทำงานจังหวัดของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา ขอแสดงจุดยืนด้วยคำแถลงการณ์ฉบับนี้ เพื่อยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่า พรรคก้าวไกล นครราชสีมา ไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า ทั้งนี้ พรรคก้าวไกล นครราชสีมา นำโดย ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา  ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา และคณะทำงานจังหวัดของพรรคก้าวไกล นครราชสีมา ขอยืนยันต่อประชาชนทุกท่านซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ว่า พรรคก้าวไกลนครราชสีมา จะไม่สนับสนุนการจับมือตั้งรัฐบาลกับทุกพรรคการเมืองที่มีส่วนร่วมกับการสืบทอดอำนาจเผด็จการอย่างแน่นอน”
 
 
ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ค. 2566) ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนากล้า อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า มาในลุกสวมชุสูทสวมใส่เน็คไทม์สีส้ม พร้อมด้วยนายประสาท ตันประเสริฐ ว่าที่ส.ส.นครสวรรค์ , นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ว่าที่ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เปิดแถลงข่าวที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนากล้าอ.เมืองนครราชสีมา ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก
 
 
โดยนายสุวัจน์ฯระบุว่า พรรคก้าวไกลได้เชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลซึ่งพรรคก็ตอบรับในหลักการ เพื่อสนับสนุนให้พรรคที่ได้รับเสียงอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จและในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้พรรคได้นัดประขุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาMOU ว่าสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่ แต่เมื่อพรรคกก.ได้แถลงยุติการเชิญพรรคชพก.ร่วมรัฐบาล และได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งชพก.ก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ได้ใก้เกียรติเรียนเชิญชพก.เข้าร่วมรัฐบาลทั้งๆที่เรามีเพียง 2 เสียง  ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้การประชุมกรรมการบริหารพรรคก็ไม่เกิดขึ้น ส่วนจะให้ ส.ส.โหวตให้ใครเป็นนายกนั้นจะต้องหารือกันก่อนภายในพรรค ทึ่ผ่านมาชพก.ก็ตอบรับในหลักการแต่เมื่อได้รับแจ้งยุติการการเชิญและขอโทษมาเราก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และก่อนที่จะตอบรับตนก็ได้แจ้งให้นายกรณ์ จาติกาณิชย์ หน.พรรคทราบแล้วซึ่งหน.พรรคอยู่ระหว่างไปเที่ยวที่ออสเตเลีย ซึ่งยืนยันว่าชพก.ไม่ได้น้อยใจหรือผิดหวังอะไร ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด no problem ชพก.ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกันทุกพรรค ส่วนสาเหตุที่กก.ยุติการเชิญตนไม่ทราบแต่ยอมรับว่าในทุกเวทีดีเบตชพก.ยืนยันมาตลอดว่าจะคงมาตรา112 ไว้ไม่ไปแตะต้องและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
 
 
นายสุวัจน์ฯกล่าวย้ำว่า ส่วนอนาคตพรรคชพก.จะร่วมรัฐบาลชุดใหม่หากพรรคการเมืองอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นแต่ถ้า พรรคอื่นเห็นว่าชพก.จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ชพก.ก็พร้อมพิจารณาและจะหารือในกรรมการบริหารพรรคตามขั้นตอนต่อไป นายสุวัจน์ฯกล่าว