วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 05:14 น.

ภูมิภาค

รถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม มาแล้ว ถือฤกษ์ 09.39 ตอกไม้มงคล มีเลขหางประทัดเป็นแนวทางเศรษฐีใหม่

วันอาทิตย์ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 17.57 น.

วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 เวลา 07.39 น. บริเวณทุ่งนาหลังวัดศรีสะอาด หมู่ 1 บ้านดอนยานาง ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม นายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รอง ผว.รฟท.) เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงวางศิลาฤกษ์ โครงการรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม  ช่วงก่อสร้างระยะ 2 (ร้อยเอ็ด,ยโสธร,มุกดาหาร,นครพนม) รวมระยะทางช่วงนี้ 180 กิโลเมตร


โดยเริ่มจากประธานจุดธูปเทียนบูชาฤกษ์ ณ โต๊ะเครื่องบวงสรวง พราหมณ์ชิษณุชา อักษรเสือ อ่านโองการอัญเชิญเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสถิตสถาพรในพิธี และจุดประทัดเปิดจำนวน 3,000 นัด มีเลขหางประทัดเป็นมงคล 60,464 จากนั้นพระสงฆ์ 9 รูปสวดเจริญชัยมงคลคาถา พร้อมเจิมเครื่องมงคล

 


จากนั้นเวลา 09.39 น. ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์ในวันดังกล่าวนี้ เป็นฤกษ์อันเป็นมหามงคล โดยพระสงฆ์นำประกอบพิธีตอกเสาไม้มงคล ก่อนจะมอบให้ประธานตลอดจนผู้ร่วมพิธี ตอกเสาไม้มงคลทั้ง 9 หลักลงในหลุม วางเครื่องมงคล อาทิ เพชร นิล จินดา เงิน ทอง  โปรยข้าวตอกดอกไม้ในหลุมศิลาฤกษ์ พระสงฆ์อนุโมทนา และจุดประทัดปิด จำนวน 10,000 นัด ได้เลขมงคลหางประทัด 25,890 ขณะที่ธูปเสี่ยงทายโต๊ะบวงสรวงเป็นเลข 117 รวมเวลาประกอบพิธีบวงสรวงวางศิลาฤกษ์ โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่  3 ชั่วโมง


หลังเสร็จพิธีดังกล่าว ดร.สุภชา ศิริวงษ์ยิ่งเจริญ ผู้จัดการโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า วันนี้มีความฉุกละหุกมาก เพราะหลังจากได้ฤกษ์มงคลที่ดีที่สุด ก็ทำการจัดตั้งโต๊ะบวงสรวงทันที ถ้าไม่ประกอบพิธีตามความเชื่อในวันนี้ ฤกษ์อื่นก็ดีแต่ไม่เท่าฤกษ์นี้ ถือเป็นการเปิดประตูสู่ความสำเร็จ หลังจากนี้ก็จะนำเครื่องจักรทยอยเข้ามาปรับเกรดพื้นที่ โดยบริเวณที่ประกอบพิธีบวงสรวง คือ สถานีนครพนม ที่ใหญ่สุดในจังหวัด เป็นศูนย์รวมเส้นทางสำคัญ เพราะนอกจากมีรางคู่เป็นหลักแล้ว ยังเพิ่มรางขึ้นมาอีกไม่น้อยกว่า 3-4 ราง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ตามสัญญาว่าจ้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2572 แต่ถ้าไม่มีอุปสรรคด้านสสสภาพดินฟ้าอากาศ คาดจะแล้วเสร็จก่อนระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา

 


โดย ดร.สุภชา ศิริวงษ์ยิ่งเจริญ ผู้จัดการโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ กล่าวต่ออีกว่า ในพิธีวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้ จะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนร่วมให้ความอนุเคราะห์ ทั้งนี้ทั้งนั้นการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ได้เวนคืนที่ดินรวมเนื้อที่ 4,600 แปลง มีการทยอยจ่ายค่าเวนคืนไปแล้วเกือบ 2,000 แปลง ตรงที่ยืนอยู่นี้ยังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืน แต่ด้วยความน่ารักของพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม ที่ต้องการเห็นความเจริญเติบโตเกิดขึ้นโดยเร็ว จึงอนุญาตให้เข้าดำเนินการก่อสร้างได้ จึงขอขอบคุณเป็นอย่างสูง

 


ขณะเดียวกันมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาในพื้นที่เวนคืน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัท ขอเคลียร์พื้นที่เพื่อเตรียมวางรางรถไฟ เจ้าของที่ไม่เฉลียวใจจึงอนุญาต กลุ่มมิจฉาชีพก็จะขุดเอาดินออกจากบริเวณนั้น คาดนำไปขายต่ออีกทอด เมื่อเจ้าหน้าที่ตัวจริงมาเห็นได้สอบถามข้อเท็จจริง ทราบว่าเสียรู้แก่กลุ่มพวกนี้แล้ว จึงขอแจ้งเตือนไปยังเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน ว่า ทุกครั้งจะมีการเชิญเจ้าของที่ดินมาคุยกันที่สำนักงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นหากมีผู้ใดเข้ามาแอบอ้างให้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

 


ทั้งนี้ โครงการรถไฟรางคู่ ระยะสองนี้จะเริ่มจากสถานีหนองพอก จ.ร้อยเอ็ด มาสิ้นสุดที่สะพานมิตรไทยลาวแห่งที่ 3 รวมระยะทาง 180 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างทั้ง 2 ระยะเป็นเงิน 80,000 ล้านบาท

หน้าแรก » ภูมิภาค