วันที่ 22 พ.ค.66  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า  พบนายกันพิเชฐษ์ หรือ อดุลย์ มลิเกตุ อายุ 61 ปี  ครูเพลง/อดีตผู้บริหารสถานศึกษา ชาวอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี  กล่าวว่า  จากสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง สส.ที่ยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะการเลือกว่าที่นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายบริหาร ประเทศ ได้แต่งเพลงชื่อเพลง  กราบ - ขอวิงวอน สว.โหวตให้“พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30  ขับร้องผ่านช่องยูทูปขึ้น   ซึ่งที่ได้แต่งเพลงสนับสนุนให้“ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อายุ 43 ปี หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30        

เพราะหลังจาก  ผลการเลือกตั้ง สส.ที่ออกมาแล้ว   พรรคก้าวไกลได้คะแนนสูงสุดมาอันดับ 1 นั้นเป็นฉันทานุมัติ ว่าพรรคอันดับ 1 เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล  และ หัวหน้าพรรคจะได้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี   โดยในครั้งนี้ “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อายุ 43 ปี หัวหน้าพรรคก้าวไกล    คือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30  แต่ต้องมีสส.ถึง 376 ที่นั่ง   และ  หนีไม่พ้น สว.ที่จะต้องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ฉะนั้น เมื่อเราเห็น “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”ได้มาเป็นอันดับ 1 แล้ว  ถือว่ามาโดยเสียงสวรรค์  มาโดยระบอบประชาธิปไตย อยากจะให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี  เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมา

 

วิงวอน สว.  ให้เห็นแก่ประเทศชาติ แต่ว่าเป็นเอกสิทธิ์ของท่าน ว่าจะโหวตสนับสนุน หรืองดออกเสียง  หรือไม่สนับสนุนก็แล้วแต่ท่าน   แต่เราแต่งเพลงเป็นเสียงโน้มน้าวจิตใจของท่าน   เพื่อให้ท่านเห็นแก่บ้านเมือง เนื้อเพลงเป็นบทกลอนแปดธรรมดาๆ  ว่า 

 

กราบขอวิงวอนท่าน สว.สักหน่อยเถิดหนา  ผมขอความเมตตา  โหวตให้พิธาจากพรรคก้าวไกล  ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคนที่ 30 สักหน่อยได้ไหม?   ประชาธิปไตยกำลังกลับมา  อย่าฝืนมติ  หัวใจของประชาชน ที่กำลังสุขล้น   เลือกก้าวไกล ด้วยใจศรัทธา  แต่มาคิดขัดด้วยข้อกฎหมาย และ กติกา  ต้องฝ่าด่านวุฒิสภาฯ  ถึงจะได้มา  นายกรัฐมนตรี สว.ใช่ว่าเป็นผู้สูงวัย  งามทั้งจิต - กายใจ บ้านเมืองเรื่องใหญ่ ท่านเป็นผู้ชี้ ตำแหน่งสูงส่ง มีเกียรติและมีศักดิ์ศรีท่านเป็นผู้ชี้  ปรารถนาใดในปัฐพี ไมยตรีแลกได้สมดังใจจง  ก้าวออกจากสงจรแห่งความขัดแย้ง   ไม่ว่า สีส้ม สีเหลือง  สีแดง ล้วนเป็นสีแห่งความมั่นคง  เดินไปด้วยกันด้วยจิตวิญญาณคนไทยสูงส่ง   รักด้วยหัวใจไม่ใช่ลุ่มหลงเลือกก้าวไกลมา  เอาพิธาเป็นนายก ...