วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 14:42 น.

ภูมิภาค

สุพรรณบุรีอากาศร้อนกระทบผลผลิตสวนผักคะน้า

วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 18.10 น.
ถึงแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วก็ตามแต่สภาพอากาศ ยังร้อนระอุ เนื่องจากยังไม่มีฝนตก จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้พืชผักต่างๆได้รับผลกระทบ ไม่เจริญเติยโต แมลงต่างๆรบกวนแม้ราคาผักจะขยับสูงขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตาม  
 
นายสมบูรณ์ ทวีอุดมโชติ อายุ 54ปีเกษตรกร ชาวสวนผัก หมู่ 3 ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมืองสุพรรณบุรี  เล่าว่าเล่าประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกผักคะน้า มาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มรุ่นๆจนปัจจุบันกว่า 30 ปีตอนนี้ตนปลูกคะน้าประมาณ 18 ไร่คิดว่าน่าจะเป็นรายใหญ่ที่สุดของอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ช่วงนี้ราคาผักคะน้าได้ลดลงจากเมื่อก่อนราคากิโลกรัมละ 30-35 บาทต่อมาประมาณ 7 วันที่ผ่านมาราคาคะน้าลดลงมาเหลือ 25-30 บาท ซึ่งตนจะเก็บคะน้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งวันละ 10 กว่าตัน ซึ่งลูกส่วนมากก็จะอยู่ที่ตลาดไทย ตลาดสี่มุมเมือง มีต่างจังหวัดบ้าง นครราชสีมา และ ราชบุรี บ้างโดยลูกค้าจะมารับผุกถึงหน้าสวนเราไม่ต้องไปส่ง 
 
การปลูกคะน้าจะใช้เวลาประมาณ 50วันถึงจะเก็บผลผลิตได้ พอมาเจออากาศร้อนจัดทำให้คะน้าได้รับผลกระทบผักจะไม่ค่อยโต โตช้า กว่าปกติ  ต้องลงทุนสูง ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมันสูบน้ำเข้าแปลงผัก และค่าคนงานรวมแล้วตกประมาณไร่ละ10,000 กว่าบาท ส่วนคนงานตัดผักเราจ้างเป็นน้ำหนัก คนตัดอย่างเดียวตันละ 1,000 บาท ส่วนคนที่ตัดด้วยเข็นผักมาขึ้นรถด้วยจะได้ค่าแรงตันละ 1,500 บาท แต่ก็อยู่ที่คนตัดถ้าคนไหนตัดเก่งก็จะมีรายได้มาก เฉลี่ยวันละ 400-500 บาทต่อคน จะเริ่มตัดประมาณ 07.00 น.ถึงช่วงบ่าย ใช้คนงานตัดวันละประมาณ  20-25 คนเฉลี่ยรายจ่ายค่าแรงงานคนงนเก็บวันละ 10,000 กว่าบาท  
 
อยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ให้ช่วยลดราคาปุ๋ย ราคายา สารเคมีกำจัดแมลง ต่างๆรวมทั้งค่าน้ำมัน พลังงานต่างๆให้ลดลง หน่อยเพราะว่ามันแพงมาก ไม่สมดุลกับราคาพืชผลการเกษตรที่เราขายออกไป ยังนับว่าโชคดีที่ช่วงนี้ผักออกมาตรงกับช่วงที่ราคาดี แต่บางช่วงก็ถูกมากถึงกิโลกรัมละ 2-3 บาทก็มีสำหรับตนจะปลูกผักคะน้าปีละ 2 รอบรอบแรกหลังน้ำแห้งประมาณเดือนเมษายน แล้วมาเก็บช่วงเดือนพฤษภาคม จากนั้นก็จะตากหน้าดินเป็นการพักเพื่อไม่ให้โรคและแมลงรบกวนอีกประมาณ 2-3 เดือนกว่าจะลงมือทำรอบใหม่เพราะเราไม่ถนัดที่จะไปปลูกพืชชนิดอื่นก็เลยทำคะน้าอย่างเดียว  

หน้าแรก » ภูมิภาค