วันที่ 23 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนป้าสายหยุด ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง นางสายหยุด จันทร์สว่าง อายุ 60 ปีเจ้าของสวนทุเรียนหมอนทองภูเขาไฟกว่า 350 ต้นบนเนื้อที่ 15 ไร่ กำลังเร่งตัดทุเรียนภูเขาไฟมีดแรกส่งขายลูกค้าที่มีออเดอร์สั่งเข้ามาจากทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งปีนี้ทุเรียนภูเขาไฟให้ผลผลิตประมาณ 100 ต้น หรือประมาณ 1,5000 ลูก น้ำหนักรวมกันกว่า 5,000 กิโลกรัม ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท สร้างรายได้เกือบ 10,000 บาทต่อวัน หรือกว่า 1 ล้านบาทต่อปี และปีนี้ทุเรียนภูเขาไฟหนึ่งเดียวในภาคใต้ของป้าสายหยุด ให้ผลผลิตเป็นปีที่ 2 แต่เพิ่งเปิดขายเป็นปีแรก เนื่องจากปีที่แล้วผลผลิตยังมีน้อย ทำให้ลูกค้าที่ติดตามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แห่สั่งจองกันข้ามปี เพราะเป็นทุเรียนภูเขาไฟปลอดสาร เปลือกบาง เนื้อเยอะ เมล็ดเล็กลีบ กลิ่นฉุนน้อย หอมละมุน ไม่หวานจัด แม้จะตัดที่ความแก่ 90% สีเหลืองสวย และมีความมันมากกว่าหมอนทองทั่วไป

ซึ่งเกษตรกรท้าให้ลองความสดใหม่ ปลอดภัยและหอมหวานอร่อยกว่า ด้วยการผ่าให้ชิมฟรี ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ พร้อมให้ลูกค้าเดินทางไปเลือกเองถึงสวน ว่าจะเอาลูกไหน เนื้อกรอบ นิ่ม สุก หอม เกรดไหน และรับเคลมให้ทุกลูกหากมีปัญหาเน่าเสีย ทำให้ลูกค้ามีการบอกต่อแบบปากต่อปาก และเดินทางไปเลือกซื้อถึงสวนกันอย่างคึกคัก แม้จะตัดขายได้เพียง 2 วันก็ตาม สำหรับทุเรียนหมอนทองภูเขาไฟของป้าสายหยุด แต่ละต้นให้ลูกดกไม่ต่ำกว่า 50-70 กิโลกรัม ซึ่งแต่ละลูกจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 3-7 กิโลกรัม บางลูกหนักถึง 10 กิโลกรัม ทำให้มีราคาขายลูกละ 600-2,000 บาท สร้างรายได้ให้อย่างงดงามและหากทุเรียนภูเขาไฟอีก 250 ต้นที่เหลือ ให้ผลผลิตอย่างเต็มที่ จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว ส่วนเกษตรกรรายใดสนใจอยากปลูกทุเรียนภูเขาไฟตามศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน สามารถเข้าไปศึกษาเรียนรู้ได้ทุกวัน หรือทางเฟสบุ๊ก สวนป้าสายหยุด และที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-4763349

ด้านนางสายหยุด จันทร์สว่าง เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนภูเขาไฟเจ้าแรกในภาคใต้ กล่าวว่า ปีนี้ทุเรียนเพิ่งขายปีแรกประมาณ 1,5000 ลูกหรือประมาณ 5,000 กิโลหรือ 5 ตัน จากการที่เริ่มตัดเมื่อวานกับวันนี้ เท่ากับมีดแรก ปรากฏว่ามีลูกค้าที่สนใจทุเรียนภูเขาไฟ จ.ตรังเยอะมากและมีลูกค้าติดต่อมาจากทั่วประเทศ ซึ่งเอกลักษณ์หรือความโดดเด่นของทุเรียนภูเขาไฟคือเป็นทุเรียนที่มีความมัน ความนัวมากกว่าทุเรียนหมอนทองทั่วไปนับเท่าตัว เนื้อละเอียด เมล็ดเล็กลีบ เปลือกบาง กลิ่นฉุนไม่รุนแรง แต่หอมระรื่นน่าทาน เนื้อตัดแก่ที่ 90% ซึ่งต่างจากทุเรียนทั่วไปที่ส่วนใหญ่ไม่ถึง 90 เพราะต้องเว้นช่วงการขนส่งไปถึงมือลูกค้า

ตัดเสร็จทิ้งไว้ 2 คืนถึงจะสุก โดยไม่มีกาป้ายยาหรือใช้สารเคมีใด ๆ ไม่ว่าจะทางดินหรือทางใบ ใช้แต่เดินภูเขาไฟเพื่อเพิ่มคุณภาพของผลผลิต เพื่อปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากที่สุด ส่วนความมันรับรองได้เลยว่า อร่อยที่สุดเท่าที่ทานทุเรียนมา ลูกที่หนักที่สุดประมาณ 10 กิโลเล็กสุดคือ 2 กิโลกว่า ส่วนใหญ่มีไซส์ 3-5 กิโล ขายกิโลละ 200 บาทผลตอบรับดีมาก เพราะเป็นทุเรียนที่ปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นทุเรียนที่มีความมัน ความนัวมากกว่าทุเรียนหมอนทองทั่วไปเยอะมาก ไม่มีเม็ด ซึ่งจะได้เนื้อเต็ม ๆ ไปเลย และกล้าพูดว่าเป็นทุเรียนภูเขาไฟเจ้าแรกในภาคใต้ ส่วนศรีสะเกษทำมาก่อนก็ยอมรับ แต่ภาคใต้ตนทำมาก่อนใคร