ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ทำการจับกุมรถบรรทุกทุเรียนเต็มคันรถที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลวังสมบูรณ์ ต.วังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566  ต่อมามีข่าวว่าเจ้าของทุเรียนในรถบรรทุกที่ถูกจับกุมได้ แจ้งว่า ทุเรียนที่ถูกจับ ไม่ใช่ทุเรียนลักลอบนำเข้า แต่ว่าเป็นทุเรียนที่ซื้อมาจาก จ.ศรีสะเกษ  นั้น
    

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2566  เพื่อเป็นตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้  ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 89 หมู่ 10 บ้านซำขี้เหล็ก ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นบ้านของนายสมัย สุยคำไฮ เป็นผู้ที่มีชื่อปรากฎใน ใบสำเนา GAP อยู่ในรถยนต์บรรทุกทุเรียนที่ถูกจับกุม ซึ่งนายสมัย ได้นำเอาใบสัญญาซื้อขายทุเรียนลงวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ที่ระบุว่า ตกลงขายทุเรียนหมอนทองประมาณ 10,000 ลูก ยกเว้น ท็อป หนอน ต่ำกว่า 1.5 กก. ในราคา กก.ละ 115  บาท โดยสัญญาระบุว่า มีการวางมัดจำกับผู้ขายวันที่ 22 มิ.ย.66 เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท เงินโอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย นายสมัย  และได้นำเอาใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร หรือ  GAP ที่เป็นฉบับตัวจริงมาให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบด้วย
    

นายสมัย สุยคำไฮ อายุ  55 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของสวนทุเรียนภูเขาไฟชื่อดัง กล่าวว่า  ตนได้ขายทุเรียนภูเขาไฟไปจริง โดยทำสัญญาซื้อขายในวันที่ 22 มิ.ย. 66 ซึ่งตนได้มอบใบรับรอง GAP ให้กับล้งที่มารับซื้อ  โดยล้งได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพใบรับรอง GAP  ของตนไปก่อน ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. 66 เนื่องจากว่าล้งต้องการนำเอาไปประกอบการทำสัญญาซื้อขายว่า ซื้อทุเรียนภูเขาไฟจากสวนของตนจริง ต่อมา ล้งได้เข้ามาทำการตัดทุเรียนเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 66 ซึ่งรถบรรทุกทุเรียนได้ออกไปจากสวนของตนเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. แต่ว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ทำการจับกุมรถบรรทุกทุเรียนในวันที่ 23  มิ.ย. 66 เวลาประมาณ 15.00 น. โดยแจ้งว่า รถบรรทุกทุเรียน มีใบรับรอง GAP  ของตนและมีลายมือชื่อลงนามกำกับไว้ด้วย
    

นายสมัย สุยคำไฮ อายุ  55 ปี กล่าวต่อไปว่า  ตนขอยืนยันว่า ลายมือชื่อในใบรับรอง GAP  ที่เป็นสำเนาถ่ายเอกสาร และหมายเลขโทรศัพท์นั้นไม่ใช่ของตนแต่อย่างใด อีกทั้งทุเรียนที่ถูกจับกุมก็ไม่ใช่ทุเรียนภูเขาไฟที่ออกไปจากสวนของตน ตนคาดว่า เรื่องนี้จะมีการนำเอาใบรับรอง GAP ของตนไปขาย เพื่อนำไปใช้ในการลักลอบขนทุเรียนเถื่อน  โดยจะเอาใบรับรอง GAP  ของตนไปแอบอ้างว่า ทุเรียนที่บรรทุกไปเป็นทุเรียนภูเขาไฟ เนื่องจากว่า ทุเรียนภูเขาไฟเป็นทุเรียนที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง คุณภาพดี มีความต้องการของตลาดสูงมาก จึงคาดว่า อาจจะนำเอาทุเรียนจากที่อื่นไปปลอมทุเรียนเป็นภูเขาไฟศรีสะเกษเพื่อขายต่อเนื่องจากว่าผู้บริโภคมีความต้องการสูงมาก  ซึ่งตนขอฝากเตือนพี่น้องเกษตรกรว่า ไม่ควรที่จะมอบใบรับรอง GAP ให้กับผู้ล้งที่มาซื้อทุเรียนโดยที่ไม่ได้มีการลงลายมือชื่อของตนเองกำกับไว้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ล้งที่มารับซื้อทุเรียนภูเขาไฟนำเอาไปแอบอ้างทุเรียนจากที่อื่นว่าเป็นทุเรียนภูเขาไฟของ จ.ศรีสะเกษ
    

ทางด้าน  นายศักดิ์ศรี ชอบดี  ผช.ผญบ.ม.10  บ้านซำขี้เหล็ก ต.พราน  กล่าวว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรโทรศัพท์มาสอบถามตนเกี่ยวกับเรื่องนี้  ซึ่งตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นทุเรียนที่ตัดคนละวัน และการขนส่งก็ไม่ใช่วันเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้  ตนได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนทุกคนในบ้านซำขี้เหล็กได้รับทราบว่า การที่จะขายทุเรียนให้ล้งนั้น ในใบรับรอง GAP   จะต้องลงลายมือชื่อและวันที่ จำนวนที่ซื้อขายเท่าใด ส่งออกวันใด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการนำเอาใบรับรอง GAP  ไปแอบอ้างว่าเป็นทุเรียนภูเขาไฟดังเช่นกรณี นายสมัย สุยคำไฮ ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้