ชาวไร่อ้อยพร้อมสมาชิกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา จ.สระแก้ว เกือบ 300 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว  ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิต 120 บาท/ตัน ลดฝุ่น PM 2.5 ปีที่ผ่านมา หลังมีการอนุมัติเงินเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปเป็นค่าบำรุงรักษาอ้อยในปีนี้

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 30 มิ.ย.2566 ชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อยและสมาชิกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา ซึ่งสถาบันชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ประมาณ 300 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยฯระดับจังหวัด โดยมอบหมายให้นายชนาธิป โคกมณี ปลัดจังหวัดสระแก้วเป็นตัวแทนมารับหนังสือจากนายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา เป็นแกนนำ ซึ่งหนังสือดังกล่าว ระบุถึงเรื่อง ความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2565/2566 ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ได้มีมติรับทราบและอนุมัติ โดยให้รับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่อ้อย 2 ฤดูกาลการผลิต คือปีการผลิต 2564/2565 และปีการผลิต 2565/2566

นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรชายแดนบูรพา กล่าวว่า สำหรับฤดูการผลิต 2565/2566 การหีบอ้อยผลิตน้ำตาล ได้สิ้นสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ซึ่งเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2565/2566 ตามโครงการคังกล่าว จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลตามโครงการดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากอัตราค่าแรงในการจ้างตัดอ้อยสดสูงกว่าอัตราค่าแรงในการตัดอ้อยไฟไหม้จากปัญหาดังกล่าว สมาคมเกษตรกรชายแคนบูรพา ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูกาลผลิตปี 2565/2566 ดังนั้น จึงขอนำเรียนปัญหาผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้รับทราบ และขอให้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานในฤดูการผลิตปี 2565/2566 ในอัตราตันอ้อยละ 120 บาท จะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับราคาอ้อยที่ใกล้เคียงต้นทุนการผลิต และมีผลตอบแทนเพียงพอในการที่จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ รวมถึงการคำรงชีพของตนเองและครอบครัวต่อไป จึงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการด้วย ซึ่งสมาคมชาวไร่อ้อยและสมาพันธ์ไร่อ้อยทั่วประเทศ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องดังกล่าวพร้อมกันทั่วประเทศ