วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 14:43 น.

ภูมิภาค

ตัวแทนผู้ปกครอง ACEP ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ สั่งยุติการบริหารงาน ผอ.โรงเรียน

วันศุกร์ ที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 13.51 น.

เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 07 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร  ตัวแทนผู้ปกครองกว่า 20 คน จากโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษ ACEP (พระราม 2) ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้มารวมตัวกันยื่นหนังสือร้องทุกข์ – ร้องเรียน ต่อนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ในเรื่อง การบริหารโรงเรียนอัสสัมชัญ พระราม 2 ของ “ภราดาอานันท์ ปรีชาวุฒิ” ผอ.รร.อัสสัมชัญ พระราม 2 และขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลางในการดำเนินการยุติการเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ของบราเดอร์อานันท์ โดยทันที ซึ่งในการยื่นหนังสือร้องเรียนครั้งนี้ ทางตัวแทนผู้ปกครองก็หอบหลักฐานที่เป็นทั้งลายลักษณ์อักษร และ คลิปเสียง มามอบให้ด้วยหลากหลายรายการ อาทิเช่น  ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองเกี่ยวกับการบริหารงานของผู้อำนวยการโรงเรียน(คนปัจจุบัน),จดหมายร้องเรียน จากผู้ปกครองในแต่ละระดับชั้น ที่บอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน,เอกสารที่ชี้ให้เห็นถึงวิธีการที่ทางบราเดอร์อานันท์ใช้ในการหักเงินครู,เอกสารที่บราเดอร์อานันท์ ขึ้นเงินเดือนตัวเอง 30,000 และพวกพ้อง ควบคู่กับเอกสารที่ครูโดน หักเงิน โดยอ้างเหตุผลว่าต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย,เอกสารจำนวนนักเรียนที่ ลาออก ในช่วง ปี 65-66,เอกสารจำนวนครูต่างชาติและครูไทย ทีลาออก ในช่วงปี 65-66,รูปภาพอาหารที่จำหน่ายในโรงอาหารที่เด็กนักเรียนแจ้งว่าราคาสูงไม่สมราคา และ คลิปเสียงที่ท่านผู้อำนวยการไล่ ผู้ปกครองที่มานั่งบริเวณผอ. กำลังอบรมตอนเช้าเหมือนไม่อยากให้รู้ว่าเค้าจะทำอะไรเด็กๆ เป็นต้น

ด้านตัวแทนผู้ปกครอง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ทางคณะผู้ปกครองโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษ ได้รวมตัวกันเข้ามาขอร้องทุกข์ - ร้องเรียน ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากตั้งแต่บราเดอร์อานันท์ฯ  ได้เข้ามาบริหารงานใน โรงเรียนอัสสัมชัญ พระราม 2 เป็นเวลา 1 ปี หรือ ตั้งแต่พฤษภาคมปี 65 นั้น ทาง รร.อัสสัมชัญ พระราม 2  ก็เริ่มมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และ ณ ขณะนี้ผู้ปกครองเห็นพ้องต้องกันว่า โรงเรียนอยู่ในสถานะวิกฤต มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ตลอดคุณภาพการศึกษาถูกปรับลดลง ระดับคุณภาพการดูแลความเป็นอยู่ของเด็กในโรงเรียนก็ถูกปรับลดลงโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของเด็ก ทำให้ผู้ปกครองพาลูกหลายคนลาออก เป็นจำนวนมากในช่วงปีนี้

ส่วนด้านการบริหารทรัพยากรครู บราเดอร์อานันท์ เอารัดเอาเปรียบครู โดยการ หักเงินครูทั้งโรงเรียนมากกว่า 50% แต่ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองและพวกพ้อง การหักเงินเดือน เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของครู ทั้งครูไทยและครูต่างชาติได้ลาออกมากกว่า 30 คนในปีนี้ จึงทำให้โรงเรียนเกือบวิกฤติ การขาดแคลนครูส่งผลให้นักเรียน มีชั่วโมงว่างไม่มีครูสอนเป็นเดือน และจะมีครูออกอีกเป็นจำนวนมาก แล้วทางครูก็มีการฟ้องร้องบราเดอร์อานันท์ฯ ที่ศาลแรงงาน ในกรณีที่หักเงินเดือนครู โดยที่ครูไม่ได้ยินยอม

ด้านนโยบายของบราเดอร์อานันท์ ขาดการวางแผนงานที่รอบคอบ ไม่รับฟังคนรอบข้าง เอาเงินไปลงทุนในการเปิดอนุบาลโดยไม่มีความพร้อม ส่งผลทำให้เด็กเก่าขาดครูที่มีคุณภาพ และเด็กอนุบาลที่เข้ามาใหม่ก็ไม่ได้รับการดูแลทางด้านการศึกษาและความเป็นอยู่อย่างที่ได้สัญญากับผู้ปกครองไว้ ทำให้ผู้ปกครองเกิดความกังวลใจ และเกิดความวุ่นวาย ขึ้นในโรงเรียนมาโดยตลอด ตั้งแต่เปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ มีผู้ปกครองอนุบาล ประถม และมัธยม หลายคนพานักเรียนลาออก โดยไม่สนใจเงินที่เขาจะต้องเสียไป เพราะเขาไม่มั่นใจ ไม่ต้องการเอาลูกเล็กมาเสี่ยงในโรงเรียนภายใต้การบริหารงาน ของบราเดอร์อานันท์

ขณะที่ด้านการเงิน บราเดอร์อานันท์ได้แต่งตั้งพวกพ้องของตัวเองขึ้นมาเป็นคณะกรรมการโรงเรียน โดยคณะกรรมการโรงเรียนควรมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารและผู้อำนวยการ แต่การที่ท่านบราเดอร์อานันท์เป็นผู้เสนอ และ แต่งตั้งคณะกรรมการการโรงเรียนด้วยตนเอง ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนขาดการตรวจสอบและธรรมภิบาล นอกจากนี้ท่านยังทำตัวไม่เหมาะสมในฐานะนักบวชเซ็นต์คาเบียลและผู้อำนวยการโรงเรียน ท่านพูดจาหยาบคาย ขับไล่ผู้ปกครอง ใช้วาจาท่าทางวางตัวเองเป็นใหญ่ ทำตัวไม่เหาะสมในที่สาธารณะ ใช้คำพูดในเชิงท้าทายในการประชุมนักเรียน ประชุมผู้ปกครอง และประชุมครูซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อนักเรียน เป็นครั้งแรกที่นักเรียนทั้งประถมและมัธยม พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ยอมรับและไม่เคารพ ผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบันนี้ ทางนักเรียนปฏิเสธที่จะขึ้นไปรับรางวัล ต่างๆ กับบราเดอร์อานันท์ เพราะการที่ท่านพูดจาไม่ให้เกียรติ และไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้ฟัง ท่านเลยไม่เป็นที่นับถือของนักเรียน และครู

ทั้งนี้ทางผู้ปกครองเห็นว่า วิกฤติเหล่านี้ จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสูงสุดของโรงเรียน เนื่องจากการบริหารงานที่ขาดความรอบคอบและล้มเหลว ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ ทางผู้ปกครองลงความเห็นว่าบราเดอร์อานันท์ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารโรงเรียนอัสสัมชัญพระรามสอง อีกต่อไป ดังนั้นจึงอยาก ขอร้องให้ ท่านผู้ว่าฯสมุทรสาครเป็นตัวกลางให้ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน ในการ ดำเนินการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารโรงเรียนอัสสัมชัญ พระรามสอง โดยด่วนเพื่อขวัญและกำลังใจของครู และผู้ปกครอง และกอบกู้สภาพการศึกษาของนักเรียนในโรงเรียนอัสสัมชัญทุกคน

ตัวแทนผู้ปกครองยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตั้งแต่มีปัญหาเกิดขึ้น ทางผู้ปกครอง ได้พยายามเจรจา หาทางออก หาทางแก้ไขร่วมกับทางโรงเรียนมาตลอด เพราะอยากให้โรงเรียนแห่งนีักลับมามีคุณภาพ มีบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนเดิม แต่ไม่เคยรับคำตอบหรือแนวทางที่ชัดเจน และเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ก็ได้มีการเข้ายื่นหนังสือให้กับทางเจ้าคณะต้นสังกัดของอธิการบดีท่านนี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ผู้ปกครองรู้สึกว่า ทนไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นห่วงบุตรหลาน ห่วงโรงเรียนว่าจะไปต่อไม่ได้ จึงขอเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้ทางภาครัฐช่วยเหลือ และภายหลังจากนี้ก็อาจจะมีการขับเคลื่อนต่อไปที่เรียกว่า “การชุมนุมโดยสงบ” ที่บริเวณหน้าโรงเรียนฯ  แต่ทั้งนี้ก็คงต้องขอฟังความชัดเจนจากทางศูนย์ดำรงธรรมเสียก่อน

ด้านนายนราศักดิ์ คุณะวัฒนา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากรับหนังสือ ก็ได้เชิญตัวแทนผู้ปกครองเข้าหารือ และให้ความเชื่อมั่นว่า จะให้การช่วยเหลือตามแนวทางของภาครัฐโดยไม่นิ่งนอนใจ

หน้าแรก » ภูมิภาค