ผัววัย 39 ปี ยิงเมียวัย 28 เสียชีวิต ขณะนำส่งโรงพยาบาล แม่เผยเหตุน่าจะมาจากความหึงหวง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังงหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลา 16 .00 น. วันที่ 14 กค.66 ร.ต.อ.มานพ สุวรรณมนี ร้อยเวร สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีมีเหตุสามียิงภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 132 ม.4 ต.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ สัจจานนท์ ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง ในที่เกิดเหตุตรงบ้านปูนชั้นเดียว และในห้องนอนบ้าน เจ้าหน้าที่พบกองเลือดเต็มเบาะนอน และเศษหัวกระสุนปืนขนาด.38 มม.ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ นางสาวสุวรรณี ถึงมุสิก อายุ 28 ปี แม่ และสามีพร้อมญาติ ได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ แต่มาด้วยอาการหนัก ก่อนเจ้าหน้าที่พยาบาลช่วยกันปฐมพยาบาล แล้วนำตัวส่งต่อยัง รพ.พัทลุง และเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.โดยพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าผาก จำนวน 2 แผล กระสุนฝังใน ก่อนแพทย์ร่วมกับพนักงานสอบสวนร่วมกันชันสูตรศพ แล้วนำศพส่งผ่าเก็บหัวกระสุน ยังโรงพยาบาล มอ.สงขลา อีกครั้ง

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิตนั้นคือนายวุฒิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี อยู่บ้านในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง โดยหลังจากพาภรรยาไปส่งโรงพยาบาลแล้วได้หลบหนีไป ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตาม แต่ยังหาตัวไม่เจอ

ขณะที่เพื่อนบ้านเปิดเผยว่า นายวุฒิชัย เป็นสามีใหม่ ที่เพิ่งแต่งงานโดยมีผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายมารับรู้ ได้ไม่ถึงปี โดยฝ่ายหญิงนางสาวสุวรรณี หรือแอน เป็นหม้ายสาว ลูก 2 แต่หลังจากอยู่กินด้วยกัน เพื่อนบ้านก็ไม่เคยเห็นหน้า เพราะกลางวันจะไม่อยู่บ้าน กลับมาตอนค่ำแล้วตอนเช้าออกไป ซึ่งปกติไม่ค่อยสุงสิงกับบ้านข้างๆ ทำให้หลายคนไม่รู้จัก

ด้านนายชโลธร (สงวนนามสกุล) ญาติที่บ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม และเป็นคนนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนไม่ได้ยินเสียปืน แต่เห็นนายวุฒิชัย สามี วิ่งมาขอความช่วยเหลือว่าน้องแอนภรรยาถูกปืน ก่อนขับรถออกไปรับนำส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางน้องแอนนอนนิ่ง หมดสติก่อนถึงมือหมอ

ขณะที่นางอุไร ถึงมุสิก แม่ของผู้เสียชีวิต และแม่ยายของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองออกมานอนอยู่บนเปลข้างบ้านได้ยินเสียงดังปัง! แต่ไม่คิดว่าเป็นเสียปืน ก่อนเห็นลูกเขยวิ่งออกมาจากบ้าน ตนจึงได้ไปดูภายในห้องพบลูกสาวถูกยิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่นั่งรถไปส่งลูกสาวลูกเขยบอกว่าน้องทำปืนลั่นใส่ตัวเอง แต่ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งปกติหลังจากที่ลูกสาวได้อยู่กินกับลูกเขยถึงแม้จะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไร บางครั้งเห็นสองคนทะเลาะกันเรื่องหึงหวงลูกเขย ไม่อยากให้เมียไปทำงานนอกบ้าน ก็ถือเป็นเรื่องของครอบครัว ไม่ได้ไปยุ่งเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่คิดว่าหลังทะเลาะกันรอบนี้จะมีการนำปืนมาใช้จนเป็นเหตุให้ลูกสาวตนเองเสียชีวิต

ขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบปากคำแม่ และหาวัตถุพยาน เพราะยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้เสียชีวิตทำปืนลั่นใสเอง อีกอย่าง สามีก็หลบหนีไป หลังส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง