วันที่ 11 กันยายน 66 วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 เวลา 17. 00 น.ลานฝึก กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ภายใต้แผนยุทธการ “ ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล “ ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานีของตำรวจภูธรภาค 7 โดยมี พล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.พร้อมด้วยผู้บังการการตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดและผู้กำกับการในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ฝ่ายปกครอง , กอ.รมน.จังหวัดนครปฐม ในการระดมกำลังครั้งใหญ่หลังเกิดเหตุ คดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. สารวัตร ภายในบ้านของกำนันนก และมีการวิสามัญ หน่อง มือปืน ก่อนที่ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.ทล.1 กก.2 (ผู้กำกับเบิ้ม) ได้ก่อเหตุยิงตัวตายในบ้านพักไปอีก 1 ราย 

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า ในการระดมกกำลังในการปิดล้อมเป้าหมายครั้งนี้จะมีขึ้น 7 วันซึ่งจะกวาดล้างผู้มีอิทธิพล ให้สิ้นทั้งผู้ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง และทำธุรกิจมืด ธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและเป็นตำรวจอาชีพ ซึ่งตำรวจที่เป็นนิ้วร้ายก็จะต้องตัดออกไป ซึ่งและนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาจะเป็นกำแพงให้กับลูกน้องทุกคน ซึ่งในตอนนี้ก็มีเด็กรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาซึ่งตรงนี้ เราต้องควบคุมขีดวงให้เดินไม่ใช่โตเร็วและต้องไม่ไปดูแล ส่วนในเรื่องผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนครปฐม ต้องมีการทำความเข้าใจว่าอิทธิพลในด้านดีหรือไม่ดี ซึ่งมีการแบ่งให้ชัดสำหรับโก๋หลวงกับโก๋ราชให้ชัดเจน ซึ่งต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนให้ได้ ซึ่งเป้าหมายในการเข้าเป้าหมายก็มีบางส่วนไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นชั้นความลับ 

สำหรับการออกคำสั่งให้มีการให้ ผู้บังคับการและตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมและผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ซึ่งการดำเนินการเพื่อให้พี่น้องประชาชน สังคม ให้เกิดความเข้าใจและลูกน้องทำความผิดถึงยังให้มีการมีสอบสวน แต่ให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.7 ก่อนและได้ส่งรองผู้บัญชาการและรองผู้บังคับการมือดีเข้าไปทั่งทำการแทนแสดงให้เห็นว่าเราเอาจริงเอาจังแค่ไหน ซึ่งเป็นการให้ย้ายขาดจากตำแหน่งเดิมไว้ก่อน 

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมผู้บริหาร ซึ่งวันนี้พูดกันมากในห้องประชุม ซึ่งเราเป็นตำรวจอาชีพ เราเป็นผู้พิทักษ์สันติราช จะไม่เป็นลูกไล่ของใครมีเกียรติ กว่าจะสอบเข้ามาได้ น้อง ๆต้องทำหน้าที่ ของตัวเอง วันนี้ถ้าน้อง ๆ ทำหน้าที่ของตัวเองวันนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และทุกอย่างจะต้องคลี่คลายเพื่อเรียกความศรัทธาของประชาชนกลับมาให้ได้ ส่วนกรณี โซเชียลที่มีประเด็น วันนี้ได้มีการติดตามเรื่องนี้ว่าฝากถึงแอดมิน โซเชียล ซึ่งวันนี้เราจะไปพบท่านและต้องตรวจสอบและต้องหยุดพฤติกรรมซึ่งจะมีการดำเนินคดีแน่นอน ซึ่งบางคนเป็นเด็กและคึกคะนองและมีการทำให้พี่น้องประชาชนตกใจ ต้องดำเนินคดีตแต่ตำรวจไม่หวั่นไหวในเรื่องนี้