ล่าสุดมีทั้งSMSข้อความการรับเอกสารแล้ว แล้วโทรศัพท์กลับมาหาอธิบายเรื่องราวกัน จนเห็นแสงสว่างกับการแก้ปัญหาขอนแก่น“โตบูรพา” ยื่นหนังสือวอนรัฐบาลช่วยเหลือ เรื่องขอให้ตรวจสอบที่ดินรกร้าง ซึ่งเคยเป็นอาคารสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและอีก 5 เรื่อง เพื่อการพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น
 

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สนง.รับเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายโตบูรพา สิมมาทัน ตัวแทนภาคประชาชนในจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ได้เข้ายืนหนังสือต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะประชาชน ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ พื้นที่ทำกินและบริหารจัดการน้ำ โดยได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ใน 5 เรื่อง คือ1.ย้ายเรือนจำกลางขอนแก่น ออกนอกเมือง ยกที่ดินให้โรงพยาบาลขอนแก่นใช้ประโยชน์ 2.ตรวจสอบการบำบัดขยะติดเชื้อโรงพยาบาลขอนแก่น 3.ติดตามการสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งพังที่บ้านท่าพระเนาว์ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 4.ขอที่รกร้างตึกอาคารร้างตรงข้ามโรงเรียนสนามบินเป็นลานจอดรถ 5.สร้างสะพายลอยข้ามถนนหน้าโลตัสโนนม่วง
 

นายโตบูรพา ได้กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในเรื่อง 5 เรื่อง โดยเฉพราะที่ดินรกร้างที่อยู่เยื้องกับที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่น ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นที่ของกรมธนารักษ์ อดีตเคยสร้างเป็นอาคารสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดขอนนแก่น และบ้านพักต่างๆบนเนื้อที่ราว 10 ไร่ ปัจจุบันเป็นอาคารรกร้าง ทั้งๆที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง กลายเป็นจุดอับ จุดเสี่ยงของเมืองขอนเก่น และอยู่ใกล้โรงเรียนอาชีวะ, โรงเรียนสนามบิน และโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น

“ทั้งนี้เคยร้องไปที่เทศบาลนครขอนแก่น เพื่อเสนอให้รื้อถอนอาคารร้างเหล้านั้นออกเพื่อความปลอดภัย และที่ดินดังกล่าวนำมาใช้เป็นประโยชน์อย่างอื่นได้หรือเป็นที่จอดรถให้ผู้มาติดต่อราชการที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่น และผู้ปกครองนักเรียนทั้ง 3โรงเรียน ได้ใช้ประโยชน์รับส่งบุตรหลานแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด แต่ทางเทศบาลนครขอนแก่นไม่มีอำนาจหน้าที่ในที่ดินดังกล่าว”
 

นายโตบูรพา สิมมาทัน กล่าวอีกว่า อีกทั้งเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเมืองขอนแก่น จึงได้ทำหนังสือยื่นต่อท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในการรื้อถอนอาคารรกร้างดังกล่าวออกไป เพื่อปรับภูมิทัศน์ของ เมืองให้เกิดความสวยงาม และการใช้ประโยชน์ อีกทั้งเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาและไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุมหรือเป็นที่อยู่ของคนเร่ร่อน.