วันที่ 17 ก.ย.66 เวลา 08.30-11.00 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รมว.สาธารณสุข ได้เดินสายออกงานเป็นครั้งแรก หลังจากได้เข้ารับตำแหน่งเป็นเจ้ากระทรวง สธ. ด้วยการเดินทางมาเป็นประธานเปิดศูนย์ทันตกรรม ศูนย์ไตเทียม ยังที่โรงพยาบาลวัดสมานรัตนาราม (พุทธโสธร 2) ใน ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนเข้าตรวจเยี่ยมหน่วยบริการการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สังกัดเขตสุขภาพที่ 6

โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์ศรีศักดิ์ ตั้งจิตธรรม นายแพทย์สาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา คณะผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นำโดยประธานชมรม อสม.แห่งประเทศไทย เกือบ 1 พันคนเดินทางมาเข้าร่วมงาน

โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้กล่าวระหว่างพิธีการเปิดงานถึงนโยบายในการทำงานของพรรคทางด้านสาธารณสุข แต่ได้กล่าวชื่อพรรคผิดจากพรรคเพื่อไทย เป็น “พรรคไทยรักไทย” ที่ให้หน่วยงานสามารถชี้แจงงบประมาณด้วยตนเองได้ หลังจากการกล่าวนโยบายในการทำงานของพรรคทางด้านสาธารณสุขจบ ได้มีการกล่าวถึงสมาชิก อสม. ที่เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่าได้เตรียมที่จะดึง อสม.เข้ามาดูแลด้วยตนเอง

และพร้อมที่จะเดินหน้าสานต่องานตามแนวทางของรัฐบาลชุดก่อนที่ได้ทำไว้ดีอย่างไรก็จะนำมาสานต่อ รวมทั้งนโยบายหรืออะไรที่เคยมอบให้ค้างไว้ เช่น ค่าป่วยการ ก่อนที่รัฐบาลชุดเดิมจะหมดวาระไป โดยบอกว่าเมื่อมารับทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว จะให้คำมั่นว่าจะนำมติจากรัฐมนตรีชุดนั้นมาสู่การปฏิบัติให้ได้ รวมถึงการพัฒนายกระดับหรือปรับระดับให้แก่ผู้ที่มีศักยภาพ มีความสามารถ จะทำการส่งเสริมในหน้าที่ตามที่มีศักยภาพมากเพิ่มขึ้น

โดยพร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานกับพี่น้องชาว อสม. ซึ่ง นพ.ชลน่าน นั้นก็เป็น อสม.คนหนึ่งด้วยเช่นกัน เมื่อสมัยครั้งที่เป็น รมช.สธ. ได้มีสิ่งที่ได้ทำค้างไว้ คือ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งได้มีการยกร่างไว้เสร็จแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนที่จะนำเสนอ โดยอาจจะไปทบทวนดูว่าจะเป็นหลักประกันในการทำหน้าที่ของ อสม. ที่มีกฎหมายรองรับได้หรือไม่อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวระหว่างพิธีเปิดบนเวที

ขณะที่พระประชาธรรมนาถ เจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดสมานรัตนาราม ได้กล่าวถึงเมื่อครั้งในอดีตที่ผ่านมาว่า ได้เคยมีการออกหนังสือเชิญเจ้ากระทรวงฯ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เดินทางมายังที่ รพ.แห่งนี้มาแล้วถึง 8 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ หรือขอเลื่อนยกเลิกไปในทุกครั้ง เนื่องจากโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นด้วยเงินบริจาค จากภาคประชาชนได้ถูกโจมตีไปในทางด้านลบมาโดยตลอด จนกระทั่งมี นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต รมช.สาธารณสุข เดินทางมารับมอบ รพ.แห่งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62

และในวันนี้ถือเป็นการมาอย่างสง่างามของทาง รมว.เจ้ากระทรวงโดยตรง ที่ได้เดินทางมาจึงเป็นสิ่งที่ปลาบปลื้มใจ และถือเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดที่ได้รับในชีวิต พร้อมบอกผ่านต่อทาง นพ.ชลน่าน และ ส.ส.ในพื้นที่ รวมถึงอดีต ส.ส.ที่เดินทางมาในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วย นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 และอดีต รมว.วิทยาศาสตร์ และนายสมชัย อัศวชัยโสภณ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 เกี่ยวกับเรื่องของเงินงบประมาณของ รพ.พุทธโสธร และ รพ.พุทธโสธร 2 หรือ รพ.วัดสมานแห่งนี้ว่า

ขออย่าได้ไปปรับลดหรือตัดเงินงบประมาณตามโครงสร้างของ รพ.ในเขตพื้นที่อีอีซี จำนวน 340 ล้านบาทเลย หากอนุมัติให้ได้มาจะได้นำมาปรับปรุงเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในอาคารของโรงพยาบาลแห่งนี้ และขอให้แยกการจัดสรรงบประมาณออกจากกัน ระหว่างทั้ง 2 รพ. โดยไม่ควรไปตัดหรือปรับลดงบประมาณจาก รพ.พุทธโสธร แห่งเดิมเพื่อนำแบ่งมายังที่ รพ.แห่งนี้ นอกจากนี้ยังฝากให้ทางรัฐบาลพรรคเพื่อไทยช่วยพิจารณาเดินหน้าโครงการถนนวงแหวนรอบนอกเมืองฉะเชิงเทราต่อไปด้วย

หลังจากโครงการได้หยุดชะงักลง และค้างคามาจากรัฐบาลชุดก่อนที่หมดวาระไป รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่กลางลำน้ำหลังสันเขื่อนทดน้ำบางปะกง ให้เป็นกระเพาะหมูหรือแหล่งกักเก็บน้ำไว้หล่อเลี้ยงชุมชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงฤดูแล้งด้วย ซึ่งจะใช้เงินงบประมาณเพียงประมาณ 100 ล้านบาท หากสามารถทำได้จะเป็นประโยชน์ต่อชาว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งจังหวัด พระประชาธรรมนาถ กล่าวต่อคณะของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ระหว่างรอพิธีการกล่าวเปิดงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ รพ.พุทธโสธร 2 หรือ รพ.วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ ได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ที่ร่วมกันบริจาคทรัพย์ด้วยเงินจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาทบนพื้นที่กว่า 4 ไร่ เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2556 เป็นโรงพยาบาลขนาด 150 เตียงขนาด 9 ชั้นพร้อมอาคารสนับสนุน 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 38,000 ตรม. อยู่ห่างจากโรงพยาบาลพุทธโสธรแห่งแรกประมาณ 15 กม. ได้เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกมาตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.63

ประกอบด้วยแผนกผู้ป่วยนอกทั่วไป แผนกทันตกรรม การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กายภาพบำบัด มีห้องปฏิบัติการ เอกซเรย์ เภสัชกรรมและเวชระเบียน ปัจจุบันได้เพิ่มบริการเปิดเป็นศูนย์ไตเทียมจำนวน 5 เตียง และเตรียมขยายบริการเพิ่มขึ้นเป็น 24 เตียงในอนาคต โดยมีโรงพยาบาลพุทธโสธร เข้ามาให้การสนับสนุนทางด้านบุคลากรการแพทย์ พยาบาล การสาธารณสุข และมีมูลนิธิโรงพยาบาลวัดสมานรัตนาราม ให้การสนับสนุนด้านเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงได้รับงบประมาณสนับสนุนบางส่วนจากสำนักงานเขตสุขภาพที่ 6 จ.ชลบุรี