หลังจากที่มีเฟสบุ๊คชื่อ  สจ.เจี๊ยบ ศิริลักษณ์ ตันงามตรง ได้ลงคลิป การไปพูดคุยกับ เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง โดยได้ให้เด็กพูดคุยโทรศัพท์กับแม่และร้องไห้โดยในเฟชบุ๊คได้โพสต์ ข้อความว่า#สงสารจับใจลงพื้นที่ไม่รู้มาก่อนว่าจะพบเจออารมณ์[ความรู้สึก]แบบไหน #เมื่อเจอสถานการณ์เฉพาะหน้า... #กดอารมณ์ไว้ไม่ไหวจริงๆ [#น้ำตามาเลย] #สจ.เจี๊ยบ... #สัญญาว่าจะดูแลช่วยเหลือครอบครัวให้อยู่รอดตามกำลังที่มีค่ะ   ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าของคลิปก็ทราบว่า สจ.เจี๊ยบ ศิริลักษณ์ ตันงามตรง  เป็นสจ.ในเขตต.ด่านทับตะโก  อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี  และกำลังหาทางช่วยเหลือเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5  แต่ไม่มีสถานะอะไรเลยทั้งที่ครอบครัวเป็นคนไทย  เนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่ได้ไปแจ้งเกิด  

ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปตรวจสอบที่บ้านของเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าว  ซึ่งอยู่ข้างโรงเรียนบ้านโกรกสิงขร  หมู่ 8  ต.ด่านทับตะโก  อ.จอมบึง  พบว่าสภาพบ้านนั้นเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงสภาพบ้านทรุดโทรม โดยมีนางแตะ  ศักดิ์ขัน  อายุ 75 ปี ผู้เป็นยายของเด็กนักเรียนหญิงวัย 11 ปี  ซึ่งทราบชื่อคือ ด.ญ.สมใจ  ผาพองยุ่น  หรือน้องน้ำ   อยู่ใต้ถุนบ้าน  ก็เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นชาวจ.สกลนคร  และมาทำงานรับจ้างตัดอ้อยในต.ด่านทับตะโก  และมาซื้อที่ดินประมาณ 30 ตารางวา ริมลำห้วยและปลูกบ้านหลังเล็กๆอยู่กับสามี  ต่อมาลูกสาวชื่อ น.ส.เม   ศักดิ์ขัน  ซึ่งมีสามีอยู่ที่ จ.นครราชสีมา  ได้มาขออาศัยอยู่ด้วย  โดยนำหลานสาวคือน้องน้ำมาให้เลี้ยงตั้งแต่อายุ 4 ปี โดยที่ตนเองก็ไม่ทราบว่าหลานสาวนั้นยังไม่มีใครไปแจ้งเกิดให้  จนกระทั่งลูกสาวไปทำงานที่จ.สงขลา  นานๆกลับมาบ้านครั้ง ตนจึงต้องเลี้ยงดูหลานสาวเพียงลำพังเพราะสามีของตนได้เสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปี ก่อน จนกระทั่งหลานสาวถึงวัยต้องเข้าโรงเรียน ถึงได้มารู้ว่าหลานสาวไม่ได้แจ้งเกิด จึงไม่มีสถานะอะไร กลายเป็นเด็กต่างด้าว  ทางครูที่โรงเรียนบ้านโกรกสิงขรสงสารจึงได้ขอให้น้องน้ำไปเรียนที่โรงเรียนโดยทางโรงเรียนก็ช่วยดูแลเรื่องเสื้อผ้าและอาหารกลางวันให้  ส่วนตนเองนั้นตกบันไดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาไหปลาร้าหัก ยกแขนข้างขวาไม่ได้  ทำงานอะไรก็ไม่ได้จึงต้องเป็นภาระให้หลานสาวดูแล  หุงข้าว  ซักผ้า  เก็บกวาดบ้าน  โดยตนกับหลานสาวจะอาศัยกินข้าวเหนียวกับปลาทูเกือบทุกมื้อเพราะข้าวเหนียวนั้นทำให้อิ่มนาน ส่วนรายได้ตอนนี้มีเพียงเงินผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท เท่านั้นเพราะไม่สามารถทำงานได้เลย  ตอนนี้ก็อยากจะให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของเอกสารทั้งใบแจ้งเกิดและบัตรประชาชนให้กับหลานสาว  เพื่อวันข้างหน้าหลานสาวอาจจะมีคนสนับสนุนให้เรียนสูงๆก็ได้ไม่ลำบากเพราะตนนั้นอายุมากแล้วและไม่มีความรู้ที่จะไปทำเรื่องขอเอกสารเหล่านี้

ส่วนน้องน้ำ  หรือ  ด.ญ.สมใจ  ผาพองยุ่น  ก็บอกว่ามีคนมาหาและให้คุยโทรศัพท์กับแม่แล้ว  ซึ่งแม่ก็บอกว่าถ้ามีเงินก็จะกลับสิ้นเดือนตุลาคมนี้  จะมาทำเรื่องเอกสารให้ตอนนี้ตนเองอยากมีบัตรประจำประชาชนเพื่อจะได้ไปเรียนต่อในระดับสูงขึ้นไป  และอยากจะให้มีหน่วยงานมาช่วยเรื่องของทุนการศึกษาบ้าง  ซึ่งตอนนี้มีชุดนักเรียนแค่ 2 ชุดผลัดกันซักทุกวัน  กินข้าวเหนียวกับปลาทูเกือบทุกวัน  ก็ขอให้ผู้ใหญ่ใจบุญมาช่วยเหลือครอบครัวของตนเองบ้าง  

ด้านนายเจริญชัย   วิวัฒน์สกุลไทย  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโกรกสิงขร  ก็บอกว่า ตามกฎหมายแล้วเด็กมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน  โรงเรียนได้เปิดโอกาสให้มาเรียนได้  ส่วนงบประมาณสนับสนุนนั้นเป็นงบเรียนฟรี 15 ปี ที่รัฐจัดสรรมาให้ก็ได้รับเท่ากับเด็กไทยเหมือนปกติ  ได้รับการดูแลเหมือนเด็กไทยปกติ  ซึ่งน้องน้ำนั้นเป็นเด็กที่เรียนดีมีความตั้งใจ  มีความประพฤติดี และมีลักษณะเด่นคือกล้าแสดงออก  ซึ่งหากทางโรงเรียนมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการพูด  น้องน้ำจะอาสาคนแรกในการที่จะทำกิจกรรม  ซึ่งถือว่ามีพรสวรรค์ในการพูด  ซึ่งก็อยากจะให้น้องน้ำมีบัตรประชาชนเหมือนคนไทยทั่วไป  และทางโรงเรียนก็เคยประสานไปยังผู้ใหญ่บ้าน  และได้ไปติดกับทางอำเภอแล้ว แต่ติดขัดที่ผู้ปกครองของน้องนั้นอยู่ไกล  จึงไม่สะดวกในการที่จะเดินทางมาเพราะไม่มีเงินค่าเดินทาง  แต่ทราบว่าอาจจะกลับทำเรื่องเอกสารให้กับน้องน้ำในสิ้นเดือนนี้

สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการจะช่วยเหลือครอบครัวของน้องน้ำ หรือ ด.ญ.สมใจ  ผาพองยุ่น  สามารถติดต่อไปได้ที่โรงเรียนบ้านโกรกสิงขร  หรือสามารถโอนผ่านบัญชีได้ที่บัญชีธนาคาร ธกส. เลขที่บัญชี 020144176765  ชื่อนางแตะ   ศักดิ์ขันธ์