เมื่อวันที่ 14 พย.2566ร.ต.อ.พุฒตาล  เปลี่ยนเภท รองสว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์เก๋งขับรถฝ่ายสายฝนลื่นไถลชนอัดก๊อปปี้เสาไฟฟ้าริมถนนสาย401ท่าศาลา-นครศรีธรรมราช ฝั่งเข้าเมือง ตรงข้ามมัสยิดบ้านสระบัว ม.6 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มีผู้บาดเจ็บสาหัส1รายเป็นคนขับติดอยู่ในรถเก๋งจำนวน 1ราย จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รองผกก.(สอบสวน),แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา,เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งและมูลนิธิประชาร่วมใจในพื้นที่ อ.ท่าศาลา ไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันช่วยเหลือใช้เครื่องตัดถ่างนำคนเจ็บออกจากรถ

เมื่อไปถึงพบซากรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตีสีขาวทะเบียนกล-1927สุราษฎร์ธานีเสียหลักจนอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้าริมถนนจนตัวรถยุบห่อหุ้มกับเสาไฟฟ้า ตรงเบาะที่นั่งคนขับพบร่างคนเจ็บสาหัส1รายถูกอัดคาพวงมาลัย สอบสวนทราบต่อมาชื่อนายภัทรวาที  อายุ 47 ปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี อาการบาดเจ็บสาหัสไม่รู้สึกตัวมีบาดแผลตามลำตัวซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้รีบทำCPRแล้วนำร่างคนเจ็บส่งรพ.ท่าศาลา แต่นายภัทรวาทีได้เสียชีวิตที่  รพ.เวลาต่อมา

ซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้ค้นในรถเจอยาบ้าจำนวน 15 มัดจำนวน 159,400 เม็ดและยาไอซ์จำนวน5ถุงน้ำหนัก 170กรัมหล่นเกลื่อนกระจายในรถเก๋งคันที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจึงได้ตรวจยึดยาเสพติดทั้งหมดมาลงบันทึกที่กองร้อยอส.อำเภอท่าศาลา เพื่อทำการตรวจสอบและนำเก็บไว้ที่สภ.ท่าศาลา เพื่อตรวจสอบที่มาของยาเสพติดทั้งหมดต่อไปว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรต่อไปและขยายผลเพื่อตรวจสอบว่าเป็นยาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ต่อไป

จากการสอบสวนปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุมีฝนตกลงมาตลอดและทำให้พื้นถนนเปียกและได้มีรถเก๋ง 2 คัน วิ่งตามกันมาด้วยความเร็ว  ก่อนที่คันหลังซึ่งเป็นคันเกิดเหตุและเป็นรถเก๋งลื่นเนื่องจากถนนเปียกทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างจังเป็นเหตุให้นายภัทรวาทีเสียชีวิตและเจอยาเสพติดจำนวนมากดังกล่าว  ส่วนรถเก๋งคันที่นำหน้าได้หยุดรถแล้วถอยมาดู คิดว่าคนขับเสียชีวิต จึงรีบขับออกไปอย่างรวดเร็วทันที  คาดรถคันหน้าอาจจะเป็นรถนำ ของเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวก็เป็นได้ ซึ่งทางตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อล่าตัวเก๋งคันนำหน้ามาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.