วันที่ 5 ธ.ค.66 นี่คือบรรยากาศภายยามค่ำคืนในงานรักอ่าวลึก ที่จัดขึ้นหน้าที่ทำการอำเภออ่าวลึก ระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค. มีการออกร้านอาหารต่างๆมากมาย การละเล่นพื้นบ้าน และที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ร่วมสนุกสนานกันอย่างคึกคัก คือเวทีรำวงในสไตล์ย้อนยุค ที่จัดลานสนามหญ้า มีริ้วสายรุ่งสวยงาม โดยมีการแต่งกายชุดไทย ทั้งหนุ่มสาว สาวใหญ่ หนุ่มใหญ่วาดลวดลายส่ายสะเอว โชว์ลีลาการเต้นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งงานรักอ่าวลึกจัดขึ้นปีละครั้งเดียว ปีนี้เป็นครั้งที่ 13

ทั้งนี้การจัดงานรักอ่าวลึกเพื่อผลักดันให้อำเภออ่าวลึก ซึ่งเป็นเสมือนจุดเชื่อมโยงการเดินทางระหว่าง กระบี่ พังงา และภูเก็ต ได้มีกิจกรรมงานเทศกาลที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาร่วมกิจกรรมมากยิ่งขึ้น เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ 

อีกทั้งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจน เป็นการอนุรักษ์สืบทอดมรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม รวมถึงทรัพยากรการท่องเที่ยวของอำเภออ่าวลึก ซึ่งทรัพยากรเหล่านี้ถือเป็นฐานต้นทุนการผลิตและการดำรงอยู่ของชุมชนให้คงอยู่ตลอดไป
กิจกรรมในปีนี้ จัดขึ้นตลอด 5 วัน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป 

โดยบรรยากาศและกิจกรรมภายในงาน ยังคงเน้นรูปแบบของการถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของอ าเภออ่าวลึก การแต่งกายย้อนยุคร่วมสมัย การตกแต่งขนำของแต่ละตำบล ซึ่งแต่ละขนำจะมีการสาธิตวัฒนธรรมของตำบล อาทิ สาธิตการเคาะขนมลา การต้มสุราพื้นบ้าน การแกะสลัก หนังตะลุง การจักสาน การละเล่นพื้นบ้านและการการแสดงมโนราห์เพื่อสะท้อนเรื่องราวความเป็นอยู่ตามเอกลักษณ์ของชุมชน 

มีการจัดแสดงนิทรรศการเรื่องเล่าเมืองอ่าวลึก นิทรรศการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โซนการแสดงเวทีกลาง ที่จะมีการแสดงทางวัฒนธรรมของภาคใต้ และมีการจำหน่ายอาหารประจ าถิ่นอำเภออ่าวลึก เช่น ปลาจุกเครื่อง, ข้าวยำสมุนไพรน้ำบูดู, ลูกชก บ้านถ้ำเพชร, กะปิตัก และสาหร่ายพวงองุ่นจากตำบลแหลมสัก, ไวน์มัลเบอร์รี่, ผ้าบาติกผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติเป็นต้น มีการจัดจุดเช็คอิน หุ่นจำลอง Mr. Ao-Luk และภาพเขียนสีโบราณ เพื่อใช้สำหรับเป็นจุดถ่ายรูปให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงาน

นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า อำเภออ่าวลึก ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวSoft Power 5F (Food/Film/Fashion/Fight/Festival) ที่มีศักยภาพมีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวสมบูรณ์ครบทุกด้าน ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์โบราณคดี แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ถ้ำที่มีความสมบูรณ์หินงอกหินย้อย รวมถึงกิจกรรม CSR กิจกรรม Soft Adventure กิจกรรม Low Carbonอีกทั้ง ในปี 2566 แหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีและชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก ยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยThailand Tourism Award ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 ด้วย 

ส่วนภาพรวมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ โดย 5 อันดับแรกของสัญชาตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ได้แก่ มาเลเซีย, สิงคโปร์, สวีเดน, รัสเซีย, อินเดีย ตามล าดับ ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2566 (มกราคม – ธันวาคม) ไม่ต่ำกว่า 3,771,553 คน รายได้ทางการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 34,741.66 ล้านบาท ซึ่งแบ่งสัดส่วนเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 2,074,343 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1,697,190 คน และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 19,107.91 ล้านบาท และจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 15,633.75 ล้านบาท