วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ที่เรือนจำอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหารเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายค่ายมวย “ส.วังชมพู”โดยมีนางสาวสาธิกา  สามศรี ผู้บัญชาการเรือนอำเภอไชยา  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ และพาตรวจเยี่ยม ภายในเรือนจำ ซึ่งทางเรือนจำอำเภอไชยาได้รับเลือกเป็น "เรือนจำเฉพาะทาง" ประจำเขต 8 "ประเภทเรือนจำกีฬา โดยจะผลักดันให้กีฬามวยไชยาเป็น "Soft Power ทางศิลปะวัฒนธรรม"  ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

โดยโครงการ ฝึก วิชาชีพมวยไทยไชยา เป็นการส่งเสริมกีฬามวยไทย ที่ นางสาวสาธิกา สามศรี  ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอไชยา ได้ริเริ่มจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังออกกำลังกาย และเรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัว เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย สร้างจิตสำนักให้กับผู้ต้องขัง แก้ปัญหายาเสพติด อีกทั้งใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  และ เป็นการอนุรักษ์และสืบทอดศิลปะมวยไทยไชยา ผ่อนคลายแก้ปัญหาความเครียดระหว่างถูกคุมขังภายในเรือนจำ

สำหรับผู้ต้องขังชายที่เข้าร่วมฝึกซ้อมมวยไทย มีจำนวน97 คน  ชาย70คน หญิง27คน ส่วนใหญ่มีทักษะด้านมวยไทยมาก่อน บางคนเป็นนักมวยไทยที่ขึ้นชกตามเวทีมวยต่างๆ มาแล้ว ด้วยค่าตัวแพงๆ ซึ่งทางเรือนจำมีโครงการจะนำนักมวย ที่เป็นผู้ต้องขังที่อยู่ในเกณฑ์ดี และใกล้เวลาการพักโทษ ออกไปชกมวยนอกเรือนจำได้ และเมื่อพ้นโทษไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรวมพลังขับเคลื่อนยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลง 8 มิติ ของอธิบดีกรมราชทัณฑ์

นอกจากการฝึกอาชีพมวยแล้ว เรือนจำอำเภอไชยา ยังมีโครงการฝึกอาชีพอื่น ให้ผู้ต้องขังทั้งชายและหญิง เช่น อาชีพช่างไม้ ช่างเคาะพ่นสี ช่างเสริมสวย ผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการในอำเภอไชยา ฝึกอาชีพและรับเข้าเป็นคนงานในระหว่างต้องโทษที่อยู่ในเรือนจำอำเภอไชยา  และภายหลังพ้นโทษแล้ว ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการ ขับเคลื่อนยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลง 8 มิติของอธิบดีกรมราชทัณฑ์

นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า มวยไทยไชยา เป็นศิลปะของภาคใต้ที่สืบทอดมายาวนาน และ อ.ไชยา เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่สืบทอดมายาวนาน ซึ่งควรที่จะให้การส่งเสริม

ขณะเดียวกัน รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้โชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทยกับผู้ต้องขังอีกด้วย.