บรรยากาศที่บ้านผู้เสียชีวิต น้องปู นายพัชรพร นากลาง อายุ 17 ปี ชาวบ้านนาคอกควาย หมู่ 2 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ยังคงโศกเศร้าเสียใจ หลังประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี และยังรอความหวังให้ตำรวจ สภ.เรณูนคร ติดตามจับกุมมือมีดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2566 หลังหมอลำในงานบวงสรวงบูชาเจ้าปู่ถลาจบการแสดง กลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน อวดศักดาแสดงความเป็นเจ้าถิ่น เปิดศึกยกพวกทำร้ายร่างกายกัน ทำให้น้องปูถูกแทงเข้าหน้าอกลึกถึงปอดเสียชีวิต ขณะที่ทางด้านตำรวจยังมีปัญหา เกี่ยวกับความชัดเจนถึงเบาะแสในการก่อเหตุ เนื่องจากคลิปวงจรปิดเป็นเวลากลางคืน และไม่สามารถยืนยันรูปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุได้ อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนหาเบาะแส ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด พ.ต.อ.ศักดิ์ดา นาคประสิทธิ์ ผกก.สภ.เรณูนคร ได้ระดมทีมสืบสวนลงพื้นที่เร่งแกะรอยหาหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดี เบื้องต้นมีหลักฐานเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานที่ใกล้เคียง ตรงจุดเกิดเหตุบริเวณถนนทางเข้าตัวอำเภอ ห่างจากสถานที่จัดงานบวงสรวงเจ้าปู่ถลา ประมาณ 200 เมตร พบกลุ่มวัยรุ่นหลายพวกรวมกว่า 50 คน ใช้อาวุธมีดไล่ฟันทำร้ายกัน รวมถึงปาระเบิดปิงปอง หวังแสดงความเป็นเจ้าถิ่น ก่อนจะก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตาย

นอกจากนี้ยังพบหลักฐานสำคัญ มีพลเมืองดีนำภาพหลักฐานจากวงจรปิด เป็นคลิปการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่น ใช้อาวุธมีดไล่ฟันทำร้ายกัน ในเขตหมู่บ้านหนองสะโน ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ อ.เรณูนคร ที่ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน คาดว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นวัยรุ่นเพื่อนของผู้ตาย  ที่ต่อมาได้ขับรถจักรยานยนต์มาเที่ยวงานปู่ถลา จนเจอกันอีกครั้งในงาน เกิดเรื่องคาใจกันที่ยังไม่ได้สะสาง และถือโอกาสล้างแค้นในงานบวงสรวงบูชาเจ้าปู่ถลาของ อ.เรณูนคร จ.นครพนม จากปมแสดงความเป็นเจ้าถิ่น ผนวกกับความคึกคะนอง

ด้าน นายสินชัย นากลาง อายุ 53 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่ายอมรับว่ายังกังวลเกี่ยวกับการดำเนินคดี เนื่องจากยังไม่มีวี่แววว่าตำรวจมีหลักฐานสำคัญที่จะเชื่อมโยงจับกุมคนก่อเหตุ แต่มั่นใจว่าลูกชายไม่เคยมีปัญหากับใคร ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเพื่อนในกลุ่มมีปัญหากันมาก่อน ถามว่าตนต้องการชดเชยเยียวยาหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่ต้องการเงิน สำคัญที่สุดอยากให้จับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นอกจากนี้นายสินชัย กล่าวต่อว่ามีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 4 หญิง 1 โดยน้องปูเป็นคนเล็ก โดยตนกับภรรยาไปทำงานรับจ้างรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างใน กทม. ลูกๆจึงอยู่กับยาย ซึ่งตนได้ส่งเงินมาให้ประจำทุกเดือน ขณะที่น้องปูชอบเล่นกีฬาฟุตบอล ตนจึงซื้อรองเท้าสตั๊คสีเหลืองส่งมาให้ เพิ่งถึงมือลูกได้เพียง 2 วันก็มาเสียชีวิต โดยยังไม่ทันได้ใส่เลย

“ช่วงเช้ามืดของวันที่ 11 ธันวาคม มี น.ส.สุดสวาท ศรีษร อายุ 49 ปี ศักดิ์เป็นป้าได้โทรมาบอกว่าน้องปูถูกแทง ผมยังคิดในแง่ดีว่าคงไม่เป็นอะไรมาก แต่ไม่ถึงชั่วโมงแพทย์ รพ.นครพนม โทรมาบอกว่าไม่สามารถยื้อชีวิตลูกชายไว้ได้แล้ว รู้สึกใจหายแต่พยายามทำใจ บอกให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ ปล่อยให้ลูกจากไปอย่างสงบ ไม่ต้องทรมานกับบาดแผล และรีบเดินทางกลับทันที อยากบอกผู้กระทำให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ผมไม่ต้องการเงินทอง หากเป็นไปได้อยากได้ชีวิตลูกชายกลับคืนมา แต่มันคงเป็นไปไม่ได้  ถ้าคนแทงลูกผมเกิดความสูญเสียบ้าง คงจะเข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้ดี” นายสินชัย กล่าว.