ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมและชี้แจงนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ของจังหวัดเชียงใหม่ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสุระวุธ จันทร์งาม นายอำเภอแม่แจ่ม และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แบบบูรณาการ อำเภอแม่แจ่ม ร่วมให้ข้อมูลและหารืออย่างพร้อมเพรียงกัน

ในการนี้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้รับฟังข้อมูล ปัญหา อุปสรรค และแนวทางดำเนินงานของอำเภออมก๋อยในด้านดำเนินงาน มอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองของจังหวัดเชียงใหม่ ดังนี้ การกำหนดค่าเป้าหมาย 4 ตัวชี้วัดสำคัญ คือ ลดสถิติการเกิดจุดความร้อน (Hotspot), ลดพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar Area), ลดจำนวนวันที่ค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน (Pm 2.5) และลดจำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรังจากปี 2566 อย่างน้อยร้อยละ 50 การตั้งคณะทำงานฯ ที่แตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา โดยจะเน้นการบูรณาการและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และจัดทีมทำงานตามพื้นที่และบริบท โดยได้แบ่งพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงออกเป็น 7 พื้นที่ป่า กับอีก 1 พื้นที่พิเศษ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและรับมือได้อย่างเหมาะสม ทันท่วงที การบูรณาการงบประมาณของทุกภาคส่วน  เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ลดความซ้ำซ้อนในการใช้งบประมาณ และให้ประชาชนตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส เน้นการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดภัย และการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การมีส่วนร่วมของประชาชน โดยจะเปิดรับอาสาสมัคร จิตอาสาภาคประชาชน 100,000 คน เพื่อร่วมคิด ร่วมขับเคลื่อนในทุกระดับ การเปิดศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 66 ที่ผ่านมา และจะเปิดดำเนินการจนถึงเดือนเมษายน 67 หรือตามความเหมาะสม เพื่อเป็นศูนย์กลางการบูรณาการข้อมูลและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้แล้ว ยังได้สื่อสารนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฯ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีฯ ในวาระเยือนจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 66 ในที่ประชุมฯ ซึ่งเน้นย้ำให้ความสำคัญกับอากาศสะอาด ลดการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็กจากเครื่องยนต์ของรถที่ใช้ระบบสันดาบ โดยการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าทดแทน เพิ่มพื้นป่าอนุรักษ์และ สนับสนุนการทำงานร่วมกันกับภาคประชาชน โดยเน้นย้ำว่าปัญหาหมอกควันจากการเผาของประชาชนเกิดจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาคการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะลดปัญหาการเผาลงได้ ส่วนปัญหาหมอกควันข้ามแดน รัฐบาลฯ ยังคงต้องเจรจาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนการเผาในลำดับต่อไป