สรุปผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยรายงานว่าแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ.2566 ภายใต้ "ยุทธการพิทักษ์ขอนแก่น"เพื่อลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดที่สร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปี 2566 ที่ผ่านมา จับกุมคดีผู้เสพผู้ค้าได้ของกลางยาเสพติดจำนวนมาก สั่งการให้สกัดกั้นและปราบปรามเข้มข้นกว่าเดิมเน้นเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มเด็กเยาวชน

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567ที่บริเวณหน้าห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานแถลงผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในรอบปีที่ผ่านมา หลังจากประชุมสรุปผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยรายงานว่าแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ.2566 ภายใต้ "ยุทธการพิทักษ์ขอนแก่น"เพื่อลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดที่สร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีการบูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง โดยมี นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,พ.อ.วีรเทพ การุณรอบดุล เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 23 ,พ.ต.อ.คเชนทร์ ยืนยง รอง ผบก.ภ.จวขอนแก่น,นายภิญโญ  โฆสิต ผอ.บก.ปปส.ภ.4 ,นายสมบัติ ชัยรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น ร่วมในการแถลงข่าวในครั้งนี้

นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น แถลงว่าผลการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่าด้านการป้องกันจากการตรวจตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของรัฐ จำนวนกว่า 22,000 คน พบผลบวกจำนวน 96 คน พบสารเสพติดในพระภิกษุสงฆ์ 22 รูป จาก 1,302 รูป ตรวจสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ 146 แห่ง พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 1 แห่ง
   

ด้านการปราบปรามได้ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสยาเสพติด เดือนละไม่น้อยกว่า 7,446 ราย จับกุมผู้ต้องหา 7,502 คน ของกลางยาเสพติดยาบ้า 5,593,862 เม็ด ไอซ์ 235.01 กรัม เคตามีน 10.5 กรัม อาวุธปืน 571 กระบอก ตรวจยึดทรัพย์สิน 5,273,191 บาท มีการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัด 6,900 กว่าราย

นายยุทธพร แถลงเพิ่มเติมอีกว่า ภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจจากการจับกุมที่พบยาเสพติดจากการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังจำนวนมาก ซึ่งในปี 2567 จะยังคงใช้ยุทธการพยัคฆ์ขอนแก่น เข้าป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้นขึ้น เน้นเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่องค์กรส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการตรวจครบทุกหน่วยงาน รวมถึงสถานศึกษาจะลงพื้นที่ให้ความรู้และป้องกันเยาวชนไม่ให้ไปเข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ต่อไป.