นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ที่ผ่านมา (12 มกราคม 2567) พ.ต.ต.บัณฑูรย์  ศรีเที่ยง พนักงานสอบสวน สภ.พลกรัง  อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์อเนกประสงค์ บนทางหลวงพิเศษ มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 189 ในพื้นที่เชื่อมระหว่าง ต.สีมุม กับ ต.พลกรัง  อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงประสานกู้ชีพกู้ภัย ฮุก 31 โคราช จุดพลกรัง และกู้ชีพ รพ.มหาราชนครราชสีมา ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 
โดยที่เกิดเหตุพบรถอเนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า แลนด์ ครุยเซอร์ สีดำ ทะเบียน 7 กส 9137 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในช่องจราจรด้านขวา สภาพด้านหน้าฝั่งคนขับพังเสียหาย ห่างออกไปเล็กน้อย พบรถจักรยานยนต์ สภาพพังยับเหลือแต่ซาก ชิ้นส่วนกระจัดกระจายเต็มพื้นถนนในช่องทางด้านขวาเช่นกัน  และพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ในสภาพร่างกายแหลกเหลว เมื่อชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พบว่า แขนขาหัก กะโหลกแตก มีเลือดออกปากและจมูกจากการถูกชนอย่างแรง จนร่างกระเด็นไปตกอยู่ริมทางติดกับการ์ดเลน และเสียชีวิตคาที่
 
จากการตรวจสอบ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายทินกร จันทร์เทพ อายุ 29 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่134 ม.7 ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  และจากการสอบถามคนขับรถอเนกประสงค์ คู่กรณี ทราบเบื้องต้นว่า ขับมาตามเส้นทางจากกรุงเทพมหานคร จะมุ่งหน้าไปจังหวัดทางภาคอีสานในช่วงสุดสัปดาห์ จึงเลือกใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M6 เพื่อจะเลี่ยงจราจรติดขัดบนถนนมิตรภาพ ซึ่งช่วงที่ขับบนมอเตอร์เวย์ M6 จะมีแต่รถยนต์ 4 ล้อวิ่งบนทางเท่านั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีรถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศรขึ้นมา และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็เห็นรถจักรยานยนต์ขับย้อนศรมาในระยะกระชั้นชิดแล้ว จึงทำให้พุ่งชนกันอย่างจัง เป็นเหตุให้รถพังเสียหายและคนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตดังกล่าว
 
ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ให้กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ส่วนคนขับรถอเนกประสงค์ คู่กรณี ได้เชิญไปให้ปากคำที่ สภ.พลกรัง เพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
 
พ.ต.อ.พิเชษฐ์. จันทรัตน์ ผกก.สภ.พลกรังฯ เปิดเผยว่า ผู้ขับขี่เป็นคนท้องถิ่นที่ อ.คงฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบทราบมีบ้านพักอยู่แถวบ้านประโดก-โคกไผ่ อ.เมืองฯและทำงานอยู่พื้นที่ ต.โคกกรวด ช่วงเกิดเหตุน่าจะกำลังเดินทางกลับบ้านพัก โดยเฉพาะบนเส้นทาง M6 มอเตอร์เวย์ก็มีการห้ามรถจักรยายนต์ขึ้นไปใช้เส้นทางก็น่าจะเป็นการลักลอบขึ้นไปวิ่ง และตามจุดเกิดเหตุรถจักรยานต์น่าจะวิ่งย้อนศรด้วย ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานก็ได้ไปตรวจสอบพยานหลักฐานแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตก็ได้ทำการส่งให้แพทย์ทำการตรวจแอลกอฮอล์ ซึ่งสัปดาห์หน้าก็น่าจะรู้ผล โดยทางพนักงานสอบสวนก็จะได้ติดต่อญาติของผู้เสียชีวิตบันทึกปากคำสอบถามรายละเอียดต่อไป ตำรวจก็จะให้ความเป็นธรรมตรงไปตรงมา