ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นายสมพร เจ้ยแก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.8 ต.ตำนาน อ.เมือง จ.พัทลุง นำกล้องวงจรปิด ร้องผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง ช่วยติดตามคนร้าย ที่เข้าไปขโมยแผ่นแบบเหล็กก่อสร้าง และอุปกรณ์เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างหาย โดยสิ่งของดังกล่าวได้เก็บไว้บริเวณโกดังบริษัท เซาเทิร์นคอนตรัคชั่น 2019 จำกัด ที่รับงานก่อสร้างบ้าน และงานก่อสร้างทุกชนิด ท้องที่ ม.14 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะคนร้ายเป็นชาย อายุ ราว 40 ปี มีลักณะผอมสูง จมูกเหลม มีหนวดเคราเล็กน้อย ใช้จังหวะในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 19 มกราคม 67 เข้าไปขโมยเครื่องมือตัดเหล็กที่วางไว้บนแผ่นเหล็กก่อสร้างโดยใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีก็หยิบเครื่องมือดังกล่าวไป เจ้าของได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ควนขนนุ จ.พัทลุง หลังเกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากเป็นหวัดหยุดเสาร์อาทิตย์  ก่อนเข้าร้องผู้สื่อข่าวช่วยติดตามอีกแรง

โดยนายสมพร เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้มาเช่าโกดังเก็บของดังกล่าวเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา เพื่อใช้เก็บอุปกรณ์ในการก่อสร้าง หลังจากนำของมาเก็บไว้ช่วงกลางปี ของได้ทยอยหายลง ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะแผ่นแบบเหล็กขนาดต่างๆกว่า 1,000 แผ่น พร้อมทั้งเหล็กนั่งร้านอีกจำนวนหนึ่ง โดยแผ่นแบบเหล็ก นั้นจาก 1000 ชิ้น เหลือไม่ถึง 200 ชิ้น มันน่าเจ็บใจ แต่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ โดยแต่ละครั้ง พบร่องรอยรถยนต์กระบะเข้ามาลักขโมย และรถจักรยานยนต์ แต่ไม่สามารถทำอะไร ได้แค่ทำใจ กับของที่หายไปที่มูลค่ากว่า 1 บ้านบาท  ก่อนได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเมื่อต้นปี จนสารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาขโมยได้ดังกล่าว ซึ่งหลักฐานชัด และก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่กลัวตำรวจไม่สามารถติดตามคนร้ายรายนี้มดำเนินคดีได้ จึงร้องผู้สื่อข่าวช่วยติดตาม นำภาพผู้ก่อเหตุ ให้ชาวบ้านที่รู้จักช่วยแจ้งเบาะแสว่าเป็นใคร

นายสมพร ยังบ่นแบบน้อยใจอีกว่าเราลงทุนไปด้วยเงินหลายบาท แต่ต้องมาเสียหายกับพวกโจรที่เข้ามาขโมยแล้วขโมยอีก หากทำไปเกินกว่าเหตุ หรือยิงโจรเสียชีวิต มันก็ทำให้ลำบากอีก จึงอยากวอนคุณโจร อย่าเข้ามาขโมยอีกเลยและของที่ขโมยไปก็เอามาคืนเถอะ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุ ท้องที่ ม.14 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่มีการขโมยแผ่นแบบเหล็กก่อสร้าง โดยได้นำคริบและภาพคนร้ายให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวดู้ ซึ่งบออกกันเป็นเสียงเดียวว่า คนในคริบไม่รู้จัก และไม่คุ้นหน้า คุ้นตา และคาดว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้านแน่นอน