ที่แปลงผักมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริบ้านโนนสวาท หมู่ที่ 6  ตำบลโนนบุรี  อำเภอสหัสขันธ์  จังหวัดกาฬสินธุ์   นายอุทัย สิงห์ทอง  พัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์  ประชุมพัฒนาการอำเภอสัญจร โซนมหาธารลำปาว ซึ่งประกอบด้วย อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอห้วยเม็ก อำเภอหนองกุงศรี อำเภอท่าคันโท อำเภอคำม่วงและอำเภอสามชัย โดยมีพัฒนาการอำเภอเข้าร่วม และถอดบทเรียนการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนในชุมชน โดยมีนายสมญา  ศิลาพัฒน์  ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนสวาท  ที่นำชาวบ้านปลูกผักแปลงรวมในที่สาธารณะประโยชน์ สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สิน  สร้างอาชีพและรายได้ และยังแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ด้วย

นายสมญา  ศิลาพัฒน์ กล่าวว่า  ในพื้นที่มีทั้งปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ปัญหายาเสพติด คนตกงานจากสถานการณ์โควิด แต่เมื่อเริ่มดำเนินโครงการปลูกผักกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ  ก็เริ่มมีรายได้หมุนเวียนในครัวเรือน ใช้เวลาว่างมาดูแลแปลงผัก  จาก 24 แปลง ต่อ 1 ครัวเรือน  ภายใน 1 ปี ขยายเป็น 55 แปลง 55 ครัวเรือน โดยผักที่ปลูกจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช้า - เย็น จะมารดผัก ส่วนการขายจะมีตัวแทนชาวบ้านนำไปขายที่ตลาด หรือ บางครั้งพ่อค้าแม่ค้าก็มาสั่งและรับเองที่แปลงผัก ผ่านมาแล้ว 4 ปี คนในหมู่บ้านบางครัวเรือนได้ยึดเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้หมุนเวียนในครัวเรือนตลอดทั้งปี

นายอุทัย  สิงห์ทอง  พัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า  พื้นที่บ้านโนนสวาท ได้ทำให้เห็นถึงภาพของพื้นที่สร้างสรรค์  ที่สร้างทั้งเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ และสร้างคุณภาพชีวิตของชาวบ้านให้อยู่ดี มีสุข ตามนโยบายของนายสนั่น พงษ์อักษร  ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหา 3 ด้าน คือปัญหายาเสพติด ปัญหาหนี้สินนอกระบบ และปัญหาด้านอาชีพหลังสถานการณ์โควิด  สำนักงานพัฒนาชุมชนได้วางแผนดำเนินการไว้คือ L2C MODEL  หรือ Light Land Creative Economy  คือ พื้นที่ชีวิตเศรษฐกิจสร้างสรรค์  โดยให้ชุมชนเป้าหมายมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกัน  โมเดลที่ 2 คือ ทีมช่วยมวยวัด และโมเดลที่ 3 คือ แก้ไขปัญหาแก้จน โดยวางเป้าหมายสร้างบ้านให้กับครัวเรือนยากจน อำเภอละ 1 หลัง เป็นโมเดล บ้าน วัด พัฒนา ประชาเป็นสุข