นครราชสีมา วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2567) นายอุปถัมภ์ เจียมจิตร พนักงานช่างระดับ 7 แผนกมิเตอร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้นำเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เข้าทำการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านหลังหนึ่ง ที่ติดตั้งอยู่ในชุมชนบ้านเกาะซอย 3 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองนครราชสีมา หลังตรวจสอบเบื้องต้นพบความผิดปกติในการใช้กระแสไฟฟ้า เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวมีการใช้กระแสไฟฟ้าในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก แต่กลับเสียค่าใช้ไฟต่ำกว่าความเป็นจริง โดยจากการตรวจสอบโดบรอบตัวบ้านไม่พบผู้ใดอยู่ภายในบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงพัดลมขนาดใหญ่ดังออกมาจากตัวบ้าน เชื่อว่าภายในบ้านหลังนี้น่าจะมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังมาก
 
             
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และทำการวัดกระแสไฟจากมิเตอร์ของบ้านหลังดังกล่าวพบว่า มีการ ใช้ไฟฟ้าจำนวนมากจริง แต่มิเตอร์กลับไม่ทำงาน ซึ่งจากการตรวจสอบการใช้กระแสไฟฟ้าเชื่อว่า หากใช้กระแสไฟฟ้ามากขนาดนี้ปกติบ้านหลังดังกล่าวต้องเสียค่าไฟประมาณ 70,000 – 80,000 บาทต่อเดือน แต่กลับจ่ายค่าไฟจริงเฉลี่ยเดือนละ 9,000-10,000 บาทเท่านั้น และจากการตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเคยถูกตรวจสอบพบการลักลอบใช้ไฟมาแล้วเมื่อปี 2561 ซึ่งครั้งนั้นเจ้าของบ้านได้ยอมรับผิด และยินยอมจ่ายค่าปรับ และชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางการไฟฟ้าฯ
 
                
นายอุปถัมภ์ เจียมจิตร พนักงานช่างระดับ 7 แผนกมิเตอร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากพบว่า บ้านหลังนี้มีการใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่กลับเสียค่าใช้ไฟน้อยกว่าความเป็นจริง และจากการตรวจสอบยังพบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกตรวจสอบพบลักลอบใช้กระแสไฟฟ้ามาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบนำเครื่องมือไปวัดมิเตอร์ไฟ เป็นขนาด 3 เฟส มีการใช้กระแสไฟรวมกว่า 20 กิโลวัตต์ ซึ่งปกติถ้าไฟวิ่งขนาดนี้ต้องเป็นระดับโรงงานขนาดเล็ก ซึ่งต้องเสียค่าไฟเดือนละ 70,000 - 80,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ
 
             
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ไม่พบเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบ และเก็บพยานหลักฐานมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีการดัดแปลง พร้อมกับเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่แทน โดยจะได้นำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป