วันที่ 19 มี.ค.67 เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายสุกัณฑ์ โสรัจจกิจ อายุ 57 ปี ผู้ประกอบการธุรกิจรับกำจัดกากอุตสาหกรรมและผลิตเชื้อเพลิงทดแทน ในพื้นที่ ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะชิงเทรา และเป็นผู้ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งเป็นประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทราคนใหม่ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 ที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันสภาอุตสาหกรรมมีสมาชิกนิติบุคคล หรือ สน. ที่เป็นผู้ประกอบการตัวจริง โดยเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) จำนวน 92 ราย

และมีสมาชิกสมทบนิติบุคคล  (ทน.) หรือผู้ที่มีเพียงใบรับรองบริษัทแต่ไม่เป็นผู้ประกอบกิจการอีกจำนวน 16 ราย รวมมีสมาชิกทั้งหมด 108 ราย จากจำนวนผู้ประกอบการที่เข้ามาดำเนินธุรกิจก่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนมากถึงกว่า 2,500 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มีหลายรายยังไม่มีความเข้าใจและไม่รู้จักสภาอุตสาหกรรมมาก่อนเลย และบางรายยังไม่รู้จักระเบียบและขั้นตอนทางกฎหมายในการประกอบกิจการอีกด้วย

โดยบางรายได้เคยมีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไว้แล้ว แต่กลับไม่ได้มีจ่ายค่าทำเนียมรายปีตามระเบียบใบอนุญาต แต่ยังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งตามกฎหมายนั้นต้องมีการจ่ายค่าทำเนียมแบบปีต่อปี คล้ายกับใบอนุญาตอื่นๆ เช่น ทะเบียนรถยนต์ที่ต้องมีการต่ออายุการขอใช้งานในทุกๆ ปี ต้องมีการตรวจสภาพทุกปี ตรวจสอบตัวอาคารโรงงาน ตรวจสอบระบบไฟฟ้าทุกปี ตรวจสอบสภาพสิ่งแวดล้อมทุกปี

ซึ่งยังมีหลายโรงงานนั้นไม่ทราบ เพราะเข้าใจว่าใบ รง.4 นั้นไม่มีวันหมดอายุตาม พ.ร.บ.โรงงานฉบับแก้ไขใหม่ จึงไม่ได้ไปจ่ายค่าทำเนียมรายปี และเมื่อเขาไม่ทราบจึงเป็นปัญหาว่าเขาได้กระทำผิดไป โดยที่เขาไม่ทราบข้อมูลทางกฎหมายที่ถูกต้อง หลังจากเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแล้ว จึงมีนโยบายและเป้าหมายว่า จะหาทางเพิ่มจำนวนสมาชิกจากผู้ประกอบการที่มีมากถึงกว่า 2.5 พันแห่ง ให้เข้ามาสู่การเป็นสมาชิกในสภาอุตสาหกรรมให้ได้มากที่สุด

โดยจะเข้าไปหาสมาชิกเพิ่มเติมให้เขาเข้ามาอยู่ร่วมกันกับเรา มาเป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้เขามีโอกาสได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ และองค์ความรู้ที่เขาต้องปฏิบัติตามกรอบของข้อกฎหมาย เช่น แหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่จะเกิดจากการรวมกลุ่มเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน การเรียกร้องขอสิทธิความช่วยเหลือหรือประสานงานกับทางภาครัฐ การเข้าถึงสวัสดิการสังคม สิทธิในการเข้าถึงกฎหมายของผู้ประกอบการ รวมถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย

โดยจะตั้งเป็นเครือข่ายหรือเป็นกลุ่มขึ้นมา เช่น อาจจะมีกลุ่มอุตสาหกรรม ตม. กลุ่มพิสูจน์หลักฐานกลุ่ม กอ.รมน. กลุ่มแรงงานและสิ่งแวดล้อม ที่จะรวมตัวกันเข้าไปแนะนำตัวและทำความเข้าใจ พร้อมเชิญให้เขาเข้ามาเป็นสมาชิกอยู่ร่วมกัน เพื่อให้เขาทราบถึงสิทธิประโยชน์และสิ่งที่ต้องเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หลังจากทราบว่ายังมีอีกหลายรายที่ขาดองค์ความรู้ นายสุกัณฑ์ กล่าว