วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 14:07 น.

ภูมิภาค

เหยื่อ "ไอ้ขุนหาญ" ทาสยาบ้า ยื่นยุติธรรมเยียวยา หลังตาข้างซ้ายบอดสนิท จากการจ่อยิงกลางแสกหน้า

วันจันทร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567, 15.15 น.

วันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเก่า) นายอดินันท์ เอี่ยมจันทร์ หรือม่อน อายุ 35 ปี พร้อมด้วยภรรยา น.ส.สุนัดดา ลำไพ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 18 บ้านหนองปลาดุก ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม รวมทั้งแม่ยาย จูงมือลูกชายวัย 6 ขวบ เข้ายื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือต่อ นายณัฐภูมิ อยู่ชัง ยุติธรรมจังหวัดนครพนม และผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดฯ เนื่องจากถูกนายขุนหาญ จันทร์แสง หรือจ่า อายุ 38 ปี เพื่อนบ้านที่มีศักดิ์เป็นลุง ใช้อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ยิงเข้าแสกหน้าจนดวงตาข้างซ้าย ได้รับการกระทบกระเทือนเพราะเศษเหล็กขนาดเล็ก ฝังอยู่ในดวงตาถึงขั้นบอดสนิท เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา

โดยนายณัฐภูมิ อยู่ชัง ยุติธรรมจังหวัดนครพนม ได้อธิบายถึงสิทธิ์ในการขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา  กรณีผู้บาดเจ็บไม่มีได้เป็นคู่กรณีกับผู้ต้องหา คือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุที่เกิดขึ้น คือในรายที่บาดเจ็บได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 4 หมื่นบาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพไม่เกิน 2 หมื่นบาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ตามค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัดนครพนมคือ วันละ 345 บาท โดยรับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 1 ปี และค่าเสียหายอื่นๆไม่เกิน 5 หมื่นบาท

ซึ่งทาง น.ส.สุพรรณี ศรีสุพรรณ พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จ.นครพนม ได้ตรวจสอบเอกสารประกอบคำร้อง พบว่ายังขาดหนังสือรับรองแพทย์ ที่ยืนยันว่านายอดินันท์ผู้ยื่นคำร้องสูญเสียดวงตา โดยทางแพทย์เฉพาะทาง รพ.นครพนม ได้นัดตรวจดวงตาในวันที่ 5 เมษายนที่จะถึงนี้

นายอดินันท์เปิดเผยว่า ตนไม่ใช่คู่กรณีของนายขุนหาญ ในวันและเวลาที่เกิดเหตุนายขุนหาญ มีเรื่องโต้เถียงกับผู้เป็นแม่คือ นางลำปาง จันทรฺแสง อายุ 61 ปี กล่าวหาว่าไม่รู้จักหุงข้าวปลาอาหารให้ลูกกิน ทั้งที่นางลำปางนึ่งข้าวใส่กระติ๊บและย่างหนังเค็มเก็บอยู่ในตู้กับข้าว ด้วยความโมโหนายขุนหาญเตะกระติ๊บข้าวกระเด็นกระดอน พร้อมขู่จะฆ่านางลำปาง ทำให้ผู้เป็นแม่หวาดกลัวจึงหนีไปหลบอยู่บ้านญาติ นายขุนหาญดึงสะพายปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์เดินตามหาแม่ ทำให้สุนัขบริเวณนั้นส่งเสียงเห่าดังลั่น ตนสงสัยว่าหมาเห่าใครจึงเปิดประตูบ้าน ใช้ไฟฉายส่องกบมาดู บังเอิญแสงไฟไปกระทบหน้านายขุนหาญ ก็กล่าวหาว่าส่องไฟหาเรื่อง ตนไม่อยากมีเรื่องจึงเดินกลับเข้าบ้าน แต่เห็นว่าห้องนอนแม่ยายยังไม่ปิดไฟ จึงออกมาดูว่าแม่ยายทำอะไรอยู่ ปรากฏว่าพอเปิดประตูออกไป นายขุนหาญซึ่งเล็งปืนรออยู่แล้ว ก็เหนี่ยวไกยิงเข้ากลางหน้าพอดี ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย แพทย์ต้องส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์อุดรธานี พบว่าเศษผงเหล็กขนาดเล็กฝังอยู่ในเบ้าตามากทำให้บอดสนิท และไม่สามารถเขี่ยออกได้หมด จึงแนะนำให้เอาลูกตาออก แต่ตนยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ จึงไม่ยอมให้หมอควักดวงตา ทางแพทย์ก็ได้ส่งกลับมารักษาต่อเนื่องที่ รพ.นครพนม เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยแนะนำให้มั่นดูแลรักษาความสะอาดดวงตา ซึ่งอาจเกิดการอักเสบได้ตลอดเวลา ตนจึงมาขอความช่วยเหลือจากยุติธรรมจังหวัดฯ

ด้าน น.ส.สุนัดดา ลำไพ เผยว่ายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครอบครัวกำลังไปได้ดี ร่วมกับสามีก่อร่างสร้างตัว และถมที่เตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ ต้องมาถูกคนพาลลอบทำร้าย กลายเป็นคนพิการทางสายตา แต่ก็ไม่ขอจองเวรให้เป็นหน้าที่ของกฎแห่งกรรม

ขณะที่ นายขุนหาญ จันทร์แสง คนก่อเหตุหลังถูกจับกุมตัว ตรวจสารเสพติดในปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้จั้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า และมีเสพสารเสพติดในร่างกาย ส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม โดยไม่มีญาติแม้แต่คนเดียวเยี่ยม ผู้สื่อข่าวสอบถามนางลำปางผู้เป็นแม่ ก็ได้คำตอบว่านอกจากไม่มีเงินประกัน อีกทั้งถ้าประกันตัวออกมาตนจะต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ให้ลูกชายอยู่ในเรือนจำดีแล้ว จะได้ไม่ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก

ทั้งนี้ ทางกฎหมายยุติธรรมจังหวัดนครพนม จะดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะยื่นฟ้องทางแพ่งให้ฝั่งนายขุนหาญชดใช้แก่ผู้ถูกกระทำ ส่วนจะมากหรือน้อยอย่างไรอยู่ในดุลยพินิจของศาลพิจารณา

หน้าแรก » ภูมิภาค