ภูมิภาค
แม่ร้องสื่อคาใจลูกวัย 1 ขวบ 5 เดือนสำลักน้ำ ขอช่วยเหลือจนท.บอกให้ไปรพ.เอง หมอบอกมาช้าอาการโคม่า
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

แม่เด็กชายวัยขวบครึ่งร้องสื่อ พาลูกไปเที่ยวงานโลกทะเลชุมพร แล้ววิ่งเล่นล้มหน้าขมำลงแอ่งน้ำที่ขุดไว้บนชายหาด รีบอุ้มไปเต้นพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกไม่เป็นไรมาก ให้ผู้ปกครองพาไปโรงพยาบาลเอง ทั้งที่รถฉุกเฉินจอดอยู่ ต้องขับรถฝ่าฝูงชน การจราจรที่แออัด รถติดหนึบ จนลูกอาการโคม่าเข้าห้องไอซียู หมอบอกมาส่งช้า ไม่มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 25 มีนาคม 2567 ที่หน้าโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ตำบลท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร น.ส.ชัญญานุช หรือมิ้ว บ่อคำ อายุ 19 ปี นายปริพัฒน์ ศิริศรี อายุ 19 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว โดย น.ส.ชัญญานุช กล่าวว่าเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 ตนกับสามีและลูกชายชื่อ “น้องปังปอน” อายุ 1 ปี 5 เดือน พร้อมกับญาติๆรวม 6 คน ได้ไปเที่ยวงานโลกทะเลชุมพร ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นงานวันแรกมีพิธีเปิดใหญ่โต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และส่วนราชการได้เปิดหาดให้ผู้ไปเที่ยวได้กินอาหารฟรี มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไปร่วมงานจำนวนมาก
น.ส.ชัญญานุช กล่าวว่า โดยช่วงระหว่างเวลา 5-6 โมงเย็น ซึ่งเป็นพิธีเปิดงานกินฟรีโดยผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ขณะที่ตนกับสามีและญาติๆนั่งเล่นอยู่ริมชายหาด ลูกชายตนคือ “น้องปังปอน” ได้วิ่งเล่นตามประสาเด็กบนชายหาดแล้วเกิดเสียหลักหกล้มหน้าขมำลงไปในแอ่งน้ำทะเลที่มีการขุดเอาดินนำไปทำคันเนินที่มีบริเวณการจัดงาน จนลูกชายตนสำลักน้ำทะเลอย่างรุนแรงและหวีดร้องตลอด ตนและสามีจึงรีบอุ้มลูกชายวิ่งไปที่เต้นกองอำนวยการซึ่งเป็นเต้นปฐมพยาบาลด้วยห่างจากจุดเกิดเหตุราว 30 เมตร พบว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลนั่งอยู่ 2 คน ใส่เสื้อกั๊กมีโลโก้ของหน่วยงานรัฐ และมีรถพยาบาลฉุกเฉิน 1669 ของโรงพยาบาลจอดอยู่ใกล้ๆ กัน 1 คัน
น.ส.ชัญญานุชกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่พยาบาล 2 คน ได้ดูอาการของลูกชายตน ที่ยังรู้สึกตัวและส่งเสียงร้องดังลั่นตลอดเวลา แล้วบอกว่าลูกชายตนไม่เป็นอะไรมาก แล้วบอกให้ตนเองพาไปส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งอยู่ใกล้เพื่อไปดูดเสมหะในลำคอออกก็จะหาย ซึ่งตนก็งงมากทั้ง ๆที่มีรถฉุกเฉินโรงพยาบาลจอดอยู่ข้างๆ ซึ่งตนก็รีบอุ้มพาร่างลูกชายวิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ริมทางเพื่อไปโรงพยาบาล ซึ่งมีระยะทางจากจุดเกิดเหตุประมาณ 15 กิโลเมตร
น.ส.ชัญญานุชกล่าวว่า แต่เนื่องจากเป็นงานวันแรกและผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรกำลังกล่าวเปิดงานและจัดให้มีการกินฟรี ทำให้บนถนนริมชายหาดเต็มไปด้วยคนและรถสัญจรจำนวนมาก กว่าสามีตนจะขับรถออกจากงานแล้ววิ่งไปบนถนนที่มีแต่คนและรถขับมุ่งหน้าไปที่งานโลกทะเลจำนวนมากและต้องติดไฟแดงอีกหลายจุด ทำให้ต้องใช้เวลานานเกินกว่าครึ่งชั่วโมงหรือเกือบ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอได้ตรวจอาการแล้วรีบพาเข้าห้องไอซียูทันที เพราะลูกชายตนมีอาการหนักมากแล้ว
น.ส.ชัญญานุช กล่าวว่าต่อมาได้มีหมอมาบอกว่าลูกชายตนอาการโคม่า 50-50 เนื่องจากไม่มีการปฐมพยาบาลเบื้องตน แล้วพามาส่งโรงพยาบาลช้า และยังมีน้ำอยู่ในปอด จนผ่านไป 4 วันแล้ว ลูกตนก็ยังโคม่าอยู่ในห้องไอซียู ตนอยากถามไปยังผู้เกี่ยวข้องด้วยว่า ลูกตนไม่ลงไปว่ายน้ำหรือจมน้ำ แต่วิ่งเล่นบนชายหาดแล้วเสียหลักล้มหน้าคว่ำลงในแอ่งน้ำที่มีการขุดดินขึ้นไปทำคันเนินบนพื้นที่จัดงานชายหาด และเกิดสำลักน้ำทะเลอย่างรุนแรง แล้วทำไมเจ้าหน้าที่พยาบาลบอกไม่เป็นอะไรมาก และที่ตนติดใจมากๆ ก็คือ ทำไมไม่ให้รถฉุกเฉินพยาบาลที่จอดอยู่ใกล้ ๆเต้นท์พยาบาลพาลูกชายตนไปส่ง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พยาบาลและสัญญาณไฟขอทาง ไม่ต้องรอรถติดนานร่วมชั่วโมง จนทำให้ลูกชายตนอาการหนักถึงขั้นโคม่าอยู่ตอนนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณหาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร พื้นที่จัดงานโลกทะเลชุมพร ระหว่างวันที่ 22- 26 มีนาคม 2567 ที่จัดโดยจังหวัดชุมพร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ อบต.สะพลี ซึ่งมีกิจกรรมเปิดหาดกินฟรี มีวงดนตรีนักร้องศิลปินดัง และการแสดงแสงสีเสียงมากกมาย โดยพบว่าจุดจัดงานและมีกิจกรรม มีการขุดดินในทะเลขึ้นมาถมเป็นเนินคันสูงเกือบ 1 เมตร ยาวกว่า 300 เมตร ทำให้ริมชายหาดไม่สโลบราบลงไปตามธรรมชาติ จนทำให้เด็กวิ่งเล่นและหน้าขมำลงไปในน้ำทะเลดังกล่าว
ด้านนายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี และในฐานนะหัวหน้าหน่วยกู้ภัยทางทะเลที่ดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวกล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยในงานทางจังหวัดชุมพร สาธารณะสุขจังหวัด ได้จัดตารางเวรไว้อย่างชัดเจน ว่าแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลใดมาเข้าเวรที่เต้นพยาบาล ซึ่งช่วงวันเกิดเหตุไม่มีใครรู้ทั้ง ๆที่ตนและทีมงานก็กระจายกำลังออกดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา แต่กลับมารู้ในอีกวันต่อมา การที่มีเด็กจมน้ำ ตกน้ำ หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุอะไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เวรตามที่ได้รับมอบหมายจะต้องแจ้งเข้าระบบตามขั้นตอน แต่เนื่องในวันเกิดเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ในศูนย์พยาบาลจุดเกิดเหตุไม่ได้แจ้งให้ใครรู้และไม่ได้สั่งการตามขั้นตอน จึงทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมา ซึ่งจะต้องสอบถามผู้เกี่ยวข้องและหน่วยงานเกี่ยวข้องว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- อุทาหรณ์! สาวเมียนมาขี่จยย.ข้ามเกาะกลางตัดหน้ารถถูกชนดับกลางถนน 1 ส.ค. 2568
- กาญจนบุรีลุย “No Drugs No Dealers” บุกค้นบ้านค้ายา ยึดยาบ้า-ไอซ์-เงินสด 1 ส.ค. 2568
- รวบ "ฟลุ๊ค สามชุก" เอเย่นต์ยาบ้า! ล่อซื้อยึด 1,400 เม็ด 1 ส.ค. 2568
- ขอนแก่นลุยต่อ “No Drugs No Dealers” ยึดยาบ้าสะสมทะลุ 10 ล้านเม็ด! 1 ส.ค. 2568
- สุพรรณบุรี ครูนักเรียนร้องเพลงชาติโบกธงชาติส่งกำลังใจจากแนวหลังสู่ทหารแนวหน้า 1 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
นครพนม ร่างวีรบุรุษ "พลทหารแม็ก" กลับสู่มาตุภูมิ ครอบครัวปลื้มพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 22:43 น.
- ลพบุรี พิธีรับศพทหารกล้า “สิบเอกจิรายุส อินทุมาน” 22:34 น.
- “หญิงลี” บินมาช่วยเหลือให้กำลังใจชาวบ้านที่ศูนย์อพยพชวนศิลปิน 22:28 น.
- บุรีรัมย์ ย้ายด่วนอีก 1 รพ.หลังไม่มั่นใจในวิถีปืนใหญ่ของเขมร 22:22 น.
- ระทึก! เก๋งพาครอบครัวหนีปะทะชายแดน ชนสิบล้อเจ็บยกคัน 5 ราย 22:12 น.