ประวัติศาสตร์ครูไทยทั้งแผ่นดิน ธนาคารกรุงไทย สนับสนุนนโยบายรัฐบาล เร่งช่วยเหลือข้าราชการกลุ่มเปราะบางแก้ไขปัญหาหนี้ผ่านแคมเปญ สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน" อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ตลอดอายุสัญญา สามารถขยายเวลาชำระหนี้ถึงอายุ 80 ปี ตามความจำเป็น ให้มีเงินพอใช้ดำรงชีพ ไม่พึ่งหนี้นอกระบบ พร้อมลงนาม MOU กับ "สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น" และ "เครดิตบูโร" นำร่องช่วยเหลือข้าราชการครู เพื่อลดภาระการเงิน ปิดจบหนี้เรื้อรังได้เร็วขึ้น พร้อมเสริมแกร่งความรู้ทางการเงิน ขับเคลื่อนสหกรณ์แบบแก้หนี้ยั่งยืน พร้อมต่อยอดขยายความร่วมมือกับกรมบัญชีกลาง และหน่วยงานราชการต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ถ.มิตรภาพ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น  นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการอย่างยั่งยืน ระหว่าง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด  โดยมีนายปรีดา บุญเพลิง รองประธานกรรมาธิการศึกษาแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาและการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ , นางวีระนงค์  ฉ่ำทรัพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาดและบริการสมาชิกบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ,นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ , ดร.อนุศาสตร์  สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ,นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด ,คณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์,ผู้จัดการสหกรณ์,ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยจำกัดมหาชน จำกัด, นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ตลอดจนคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ขอนแก่น(จำนวน 14 ท่าน) เจ้าหน้าที่และรองผู้จัดการ (จำนวน 11 ท่าน) ผอ.เขต สพฐ.(จำนวน 6 ท่าน) สหกรณ์จังหวัด (จำนวน 13 ท่าน) ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ในครั้งนี้
   

นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด กล่าวรายงานว่า โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการอย่างยั่งยืน ระหว่าง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้โอกาสสหกรณ์ฯแห่งนี้ เป็นสหกรณ์ต้นแบบในการส่งเสริมวินัยทางการเงินให้แก่สมาชิก

ด้วยนโยบายของรัฐบาล ได้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดให้นำนโยบายสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
   

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของสมาชิก และได้ดำเนินโครงการช่วยเหลือสมาชิกมาเป็นลำดับเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกตามนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรการศึกษาดังนี้ 1.การปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้สมาชิกมีเงินคงเหลือเพิ่มมากขึ้น 2 .การร่วมหนี้จากสถาบันการเงินอื่นเพื่อควบคุมการก่อหนี้เกินความต้องการ 3.การรวมหนี้ภายในสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกส่งชำระหนี้ แต่ละเดือนน้อยลง 4.การลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทให้กับสมาชิก และ 5. การลดการส่งเงินค่าหุ้นรายเดือน

การขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ตามนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)มุ่งมั่นที่จะสร้างคุณภาพให้ดีขึ้นแก่สังคม ตามแนวคิดที่ว่า"กรุงไทยเคียงข้างไทยสู่ความยั่งยืน"จึงได้ร่วมมือกับ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดในการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันโครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อให้สมาชิกได้รับบริการสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีระยะผ่อนชำระยาวขึ้น 2.เพื่อช่วยเหลือสมาชิก ให้มีเงินได้รายเดือนคงเหลือเพียงพอ ต่อการดำรงชีพ 3.เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินของสมาชิก ไม่ให้ก่อหนี้เพิ่มจนเกินควรและ 4. เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นในวันนี้ทั้ง 2 องค์กร พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหา หนี้สินของข้าราชการครูและบุคลากรและการศึกษาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ให้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อความผาสุขของประชาชนภายในประเทศต่อไป
   

นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนทุกภาคส่วน และมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้ขอความร่วมมือสหกรณ์จัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือสมาชิก โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ และการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่สมาชิก โดยเสนอให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งแรกที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาหนี้สินและส่งเสริมวินัยทางการเงินร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ภายใต้โครงการ "สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน" โดยเชื่อมั่นว่า จากความมุ่งมั่นของทั้ง 2 หน่วยงาน จะช่วยให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบและเป็นธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ด้าน ดร.อนุศาสตร์  สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น  จำกัด เปิดเผยว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เป็นสหกรณ์ต้นแบบรายแรกที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร ซึ่งเป็นการจุดประกายการบริหารความเสี่ยงของสหกรณ์ให้เข้มแข็ง มั่นคง และเป็นมาตรฐาน เทียบได้กับสถาบันการเงิน โดยปัจจุบันมีสมาชิกรวม 22.175 คน มีสินทรัพย์ จำนวน 33.,707 ล้านบาท มีสมาชิกที่เป็นลูกหนี้สหกรณ์ 16,756 คน คิดเป็นร้อยละ 76 ของสมาชิกทั้งหมด คิดเป็นมูลหนี้รวม 33.238 ล้านบาท โดยปัญหาของสมาชิกคือ มีเจ้าหนี้มากกว่า 1 ราย ทำให้รายได้ ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ มีเงินเดือนเหลือไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของสมาชิก จึงได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ภายใต้บันทึกช้อตกลงความร่วมมือโครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน เพื่อให้สมาชิกได้รับบริการสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำและมีระยะผ่อน ชำระยะยาวขึ้น และมีเงินได้รายเดือนคงเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพ ส่งเสริมวินัยทางการเงินเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
   

ส่วน นางวีระนงค์ ฉ่ำทรัพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและบริการสมาชิก บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่าเครดิตบูโรมีความห่วงใยในปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นมาโดยตลอด และเห็นว่าโครงการ "สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน"เครดิตบูโรจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเพื่อสร้างวินัยทางการเงิน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน สำหรับลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับความช่วยเหลือด้วยการลดภาระอัตราดอกเบี้ย และชำระหนี้ที่เหมาะสมกับรายได้ และมีงินไว้กินไว้ใช้อย่างเพียงพ ขณะเดียวกันลูกหนี้จะร่วมแสดงจตนารมณ์จะไม่ก่อหนี้เพิ่ม โดยโครงการนี้นำร่องเริ่มกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรรายแรก เพื่อช่วยให้จัดการหนี้ได้ดีขึ้น และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการดีขึ้น

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนและเป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะหน้า รัฐบาลโดยนโยบายของฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ขับเคลื่อนผ่านกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกัน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินโดยเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ที่มีภาระหนี้สูงเงินเดือนถูกหักเงินไปใช้หนี้จนเกือบหมด มีเหลือใช้ในแต่ละเตือนไม่ถึง 30% ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทำให้ต้องไปกู้เพิ่มเพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนมีหนี้อยู่หลายแห่ง กระจัดกระจาย และอยู่ในวงจรหนี้ไม่จบไม่สิ้น
 

ท้ายสุด นางอุทัยรัตน์ อนุสุเรนทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล ศธจ.ขอนแก่น กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีอย่างน้อยก็เพื่อทางเลือก และทางรอด อย่างน้อยก็มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่รับได้ ถ้าดอกเบี้ยคงที่และรวมหนี้ที่เป็น เป็นจุดเดียวที่การบริหารจัดการ และการจ่ายก็เป็นโครงการที่ดี น่าจะตอบโจทย์ได้ว่า เราจะอยู่กับภาระหนี้สิน นี้ได้อย่างไร ให้อย่างยั่งยืนและมีความสุข.