นครราชสีมา วันนี้( 15 เมษายน 2567 ) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลมหาสงกรานต์ การเล่นสงกรานต์ของพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งถือว่ามหาสงกรานต์ปีนี้ทุกอำเภอ 32 อำเภอ ทีการจัดกิจกรรม มีการเล่นน้ำ สาดน้ำสงกรานต์กันอย่างคึกคักมากที่สุดในประวัติการณ์ โดยแต่ละอำเภอการปิดจุดหรือถนนสายสำคัญเล่นน้ำกันจนแน่นเอี๊ยดทุกแห่ง ทั้งผู้คนที่เดินสาดน้ำ ใช้ปืนฉีดน้ำ ปะแป้ง ทั้งารถที่บรรทุกน้ำ บรรทุกผู้คนเล่นน้ำขับวนไปรอบๆตัวเมืองในแต่ละอำเภอ รวมทั้งแหล่องท่องเที่ยว หรือแลนด์มาร์คในแต่ละอำเภอทั่วจ.นครราชสีมา ซึ่งมีการประเมินว่ามีพี่น้องประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทั้งเด็กๆ เยาวชน วัยทำงาน ผู้สูงอายุออกมาเล่นน้ำเฉพาะ จ.นครราชสีมามีนับล้านคน ถือว่ามีประชาชนออกมาเล่นสงกรานต์มากสูงสุดในรอบ 10 ปี  อาทิ ที่ ถนนราชดำเนิน เรียกว่า ถนนขั่วหมี่ บริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี, อ.เสิงสาง ถนน “ข้าวคั่ว”, อ.ปักธงชัย “ถนน “บอกรัก...ปักธงชัย“, อ.พิมาย…“ถนนข้าวแพะ” เป็นต้น โดยเฉพาะ ที่ อ.ปักธงชัยฯ ถนนเส้นทางคู่ขนานทางระบายน้ำลำพระเพลิง เข้าไปสู่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ระยะทางกว่า 10 กม.จราจรติดขัดอย่างหนักถีงกับเป็นอัมพาต เนื่องจากมีการเล่นน้ำกันสนุกสนาน เปิดเพลงดังสนั่นหวั่นไหว นอกจากนี้สองข้างทางมีการขายอาหารชื่อดังเรียงรายจำนวนมาก อาทิ ผัดหมี่ยายยวน เส้นหมี่ตะคุ, ผัดไก่แดงชิ้น, ส้มตำข้าวโพด, ผัดหมี่กระโทก อ.โชคชัยฯ, ผัดหมี่พิมาย เป็นต้น

ขณะที่ในอีกหลายๆจุดมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติแห่ออกมาเล่นส่งกรานต์ที่โคราชกันอย่างคึกคัก อาทิ “ ถนนขั่วหมี่” บริเวณถนนราชดำเนินโดยรอบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีนั้นเต็มไปด้วยรถกระบะที่บรรทุกถังน้ำที่หลั่งไหลมาจากต่างอำเภอเพื่อจะมาเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่อำเภอเมือง โดยเฉพาะที่บริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีนั้นทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้มีการจัดทำซุ้มอุโมงค์น้ำเอาไว้ 2 จุด ด้านซ้ายและขวาของอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีความยาวจุดละประมาณ 60 เมตร พร้อมกับปิดถนนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นสงกรานต์บริเวณอุโมงค์น้ำ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากทั้งชาวโคราชและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่สวมเสื้อลายดอกพร้อมถือปืนฉีดน้ำร่วมเล่นสงกรานต์จนทำให้ระยะทางของถนนราชดำเนินด้านหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีย์ที่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร เต็มไปด้วยชาวโคราชและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมเล่นน้ำเทศกาลสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งถนนจอมสุรางค์ยาตร “ ถนนข้าวต้ม-โจ๊ก มีผู้คนพากันออกมาสาดน้ำสงกรานต์แน่นขนัดเป็นไปอย่างคึกคักและเพลิดเพลินไปกับการละเล่นสาดน้ำอันชุ่มฉ่ำ แบบฉ่ำๆ  

ในจำนวนพี่น้องประชาชนผู้คนพากันออกมาสาดน้ำสงกรานต์แน่นขนัดเป็นไปอย่างคึกคักและเพลิดเพลินไปกับการละเล่นสาดน้ำอันชุ่มฉ่ำ แบบฉ่ำๆ ในจำนวนนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัด อาทิ ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยทีมงานอยากสัมผัสวิถีชีวิตการเล่นสงกรานต์ของชาวบ้านในแต่ละอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลตัวจังหวัด อาทิ อ.เสิงสาง, อ.พิมาย, อ.โชคชัย, อ.ปักธงชัย และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ต.งิ้ว, ต.ตะขบ, ต.เมืองปัก, ต.หนองสาหร่าย และ อ.ปากช่อง พร้อมกับร่วมเล่นสาดน้ำ ทักทาย พร้อมอวยพรปีใหม่ไทยแบบใกล้ชิดกับชาวบ้าน เปิดโอกาสให้คนหนุ่มคนสาวได้ปะแป้ง รดน้ำขอพร ขึ้นรถสงกรานต์ และยังได้แวะลงมืผัดหมี่ตะคุ “ยายยวน”

ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล กล่าวว่า ปีนี้ได้มาร่วมเล่นน้ำสงกร่านต์กับพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านในพื้นที่และได้สัมผัสวิถีชีวิตพี่น้องไกลปืนเที่ยงหรือพื้นที่ห่างไกลตัวจังหวัด รู้สึกดีใจ ปลื้มใจมากๆ อบอุ่น การเล่นน้ำกันสุภาพ โดยเฉพาะกับผู้หลักผู้ใหญ่ผู้สูงอายุมีการยกมือไหว้ก่อนรดน้ำ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เห็นลูกหลานที่อยู่ต่างอำเภอ ตำบล หมู่บ้านได้มารวมตัวกันเล่นน้ำคึกคักมากที่สุดให้รอบหลายสิบปี เท่าที่ได้ไปพื้นที่อำเภอต่างๆ คิดว่าพี่น้องลูกหลานชาวโคราชเล่นสงกรานต์กันนับล้านคนหรือทั้งจังหวัดทีเดียว มีการขอพรพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ผู้เฒ่าผู้แก่ และสรงน้ำพระ และลูกหลานที่เล่นน้ำทุกคนถือว่าเป็นครอบครัวของเรา ครอบครัวของ จ.นครราชสีมา และครอบครัวขององค์การบริหารส่นจังหวัดนครราชสีมาด้วย ทุกๆวันก็เป็นวันครอบครัวที่อบอุ่น ตนในฐานะตัวแทน ส.อบจ. 32 อำเภอ และตัวแทนลูกหลานทุกคน ช่วงโควิด 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการเล่นสงกรานต์มาปีนี้ทุกคนเหมือนกับได้ปลดปล่อย พ่อแม่พี่น้องลูกหลานเขาอัดอั้นมานานแล้ววันนี้เขามีความสุขกันจริองๆ

“จ.นครราชสีมาเป็นมหกรรมสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ soft power ที่หลากหลาย ตามที่เป็นเทศกาลมหาสงกรานต์หลังจากที่ UNESCO ประกาศให้สงกรานต์ในประเทศไทย ขึ้นทะเบียนมรดก วัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ วันสุดท้ายแล้วขอเชิญชวนมาเที่ยวโคราช เรามีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น อ.ปักธงชัย, อ.ปากช่อง, อ.เมือง, อ.เสิงสาง, อ.วังน้ำเขียว กันมากๆ”