จากกรณี นายอติกานต์ นนทะศรี หรือน้องหม่ำ อายุ 16 ปี ชาวบ้านขามเตี้ยใหญ่ หมู่ 4 ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม พร้อมด้วยน้องโอ๊ควัยเดียวกัน ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำงานที่วัดพระธาตุโพนสวรรค์ ต.โพนสวรรค์ เป็นการหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอม แบ่งเบาค่าใช้จ่ายของบิดามารดา ระหว่างทางเจอแก๊งโจ๋ที่ไม่รู้จักทำมาหากิน มีไอ้ปิ๊ดอายุ 15 ปีเป็นหัวโจก ขับสวนทางมารวมทั้งหมด 5 คัน และมองหน้ากัน ทำให้ไอ้ปื๊ดไม่พอใจขับ จยย.ไล่ตาม ก่อนจะแซงประกบใช้เท้าถีบจนรถน้องหม่ำเสียหลัก พุ่งชนเสาไฟฟ้าทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้น้องหม่ำบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 บริเวณเส้นทางเข้าบ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.โพนสวรรค์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด ผกก.สภ.โพนสวรรค์ เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้รับแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ รถ จยย.เสียหลักชนเสาไฟฟ้า จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สว.สอบสวน เจ้าของคดี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณนั้น ก็พบภาพที่ตรง 5 แยกบ้านโพนบกหน้าโรงเรียนโพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา ว่า น้องหม่ำผู้เสียชีวิตโดยมีน้องโอ๊คเป็นคนซ้อนท้าย ขับ จยย.หลบหนีแก๊งวัยรุ่นที่ขับไล่ตามมา 5 คัน และยังมีภาพวงจรปิดจากร้านขายของชำ บันทึกเหตุการณ์ตอนที่ถูกไล่ล่าอย่างชัดเจน จึงมอบหมายให้ชุดสืบสวน สภ.โพนสวรรค์ ติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง
         

จากการสืบสวนสอบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 8 คน เป็นคนตำบลเดียวกันกับผู้ตาย มีไอ้ปื๊ดอายุ 15 ปีเป็นหัวหน้าแก๊ง และเมื่อปีก่อนเคยต้องคดีฆ่าคนตายมาแล้ว คดีอยู่ระหว่างปล่อยตัวชั่วคราว ชุดสืบสวนจึงเข้าควบคุมตัวไอ้ปื๊ดและเพื่อนชื่ออาร์ตตี้ที่เป็นคนขับ จยย.ไล่บี้น้องหม่ำมาสอบสวน ทั้งคู่จนมุมด้วยหลักฐานรับสารภาพว่าเป็นคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิดจริง สาเหตุเพราะไม่พอใจที่น้องหม่ำขับรถสวนทางมาแล้วมองหน้า หลังก่อเหตุก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่คิดว่าผู้ที่พวกตนทำร้ายจะเสียชีวิต
         

ทางด้าน พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา รวบรวมสำนวนส่งฟ้องศาลเยาวชนฯ ขอฝากขังตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนศพน้องหม่ำทางครอบครัวจะฌาปนกิจในบ่ายของวันนี้ (9 พค.67)
         

ด้าน นางอนงค์ ดวงดูสัน อายุ 47 ปีแม่ของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยมีเรื่องชกต่อย หรือบาดหมางกับใคร ปีเปิดเทอมใหม่นี้เตรียมเข้าศึกษาวิทยาลัยในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมกับเล่าต่อว่าก่อนลูกจะเสียชีวิต เหมือนเป็นลางสังหรณ์ 2-3 คืนมานี้นอนไม่หลับ ลูกไปทำงานช่วยวัดเพราะเคยบวชเณรที่นั้น ทุกวันจะไปคนเดียว แต่วันเกิดเหตุมีเพื่อนไปด้วย หลังเกิดเหตุขณะลูกนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ตนฝันว่าลูกชายเดินมาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เหมือนทุกวันที่ผ่านมา แต่ไม่ได้พูดอะไร รุ่งเช้าก็ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าลูกเสียชีวิตแล้ว จึงขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุด
   

สำหรับตัวไอ้ปื๊ดหัวโจก มีข้อสงสัยกันว่าผู้ต้องหา ก่อคดีลักษณะเดียวกันซ้ำซาก สองปีฆ่าคนตายถึง 2 ศพ ต้องรับโทษเหมือนผู้ใหญ่ด้วยหรือไม่ เพราะไม่มีสำนึกแม้ศาลเมตตาให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัวแต่ไม่หลาบจำ โดยตามกฎหมายยังถือว่าไอ้ปื๊ดยังเป็นเยาวชน ดำเนินการได้แค่ส่งตัวไปคุมขังสถานพินิจเท่านั้น