วันที่ 13 พ.ค.67 เวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบนถนนสาย 304 เส้นทางฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ช่วงตอนสี่แยกกองพลทหาราบที่ 11 อ.เมือง ไปยังหน้าวัดหัวสวนพื้นที่รอยต่อกับ อ.บางคล้า ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรวม 3 เหตุการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมาจนถึงค่ำ

โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. เป็นรถบรรทุก 4 ล้อกลางแบบตู้ทึบหมายเลขทะเบียน 3ฒร-3026 กรุงเทพฯ ที่เสียหลักลื่นไหลจนล้อปัดส่ายไปมาบนเส้นทาง ก่อนที่ตัวรถจะเหวี่ยงไปฟาดเข้ากับแนวรั้วเหล็กราวกั้นร่องกลางถนน และสะบัดกลับมาพุ่งเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกหกล้อแบบตู้ทึบทะเบียน 78-0282 กรุงเทพฯ ที่ขับตามมา เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณก่อนถึงทางโค้งด้านหน้า รพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปยัง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

โดยนายพัฒนศักดิ์ ภูอาลัย อายุ 30 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ คนขับรถบรรทุก 4 ล้อกลางเล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนขับรถเดินทางมาจาก อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังจากได้นำงานไปส่งแล้วและกำลังจะกลับไปขึ้นงานที่ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ต่อไปอีก แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกพรำลงมาบนถนน แต่มีรถยนต์เก๋งขับช้าอยู่บนเลนซ้ายขวางเส้นทางอยู่ ตนจึงได้ขับออกมาทางเลนขวาเพื่อที่จะขับขึ้นแซง แต่ตัวรถได้เสียการทรงตัวเลื้อยแฉลบส่ายไปมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่จะเหวี่ยงไปชนเข้ากับราวเหล็กขอบกั้นคูกลางถนน และพลิกคว่ำลง ส่วนรถยนต์บรรทุกนั้นขับมาพุ่งชนรถตนอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ นายพัฒนศักดิ์ กล่าว

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 18.20 น. บนสะพานข้ามคลองบางไผ่ ด้านฝั่งขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ห่างจากจุดแรกไปประมาณ 200 เมตร พื้นที่ ม.10 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเป็นรถตู้รับส่งพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียน ฮษ-483 กรุงเทพฯ ที่ขับมาตามเส้นทางก่อนที่จะเสียหลักหมุนและม้วนกลับชนขอบราวสะพานคอนกรีต ก่อนที่จะพุ่งตกจากสะพานระดับความสูงประมาณ 3 เมตร

โดยตัวรถได้ม้วนหันหน้าย้อนกลับไปยังทิศทางที่ขับมา และติดค้างอยู่ในซอกระหว่างพื้นลาดชันของคอสะพานกับเส้นทางคู่ขนาน ซึ่งมีลักษณะเป็นร่องกลางถนน ทำให้มีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถพร้อมด้วยคนขับรวม 8 คนได้รับบาดเจ็บ โดยมีอาการสาหัสจากบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ขา 1 ราย ถูกลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร และ รพ.เกษมราษฎร์ (ฉะเชิงเทรา) และเหตุการณ์ที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ที่บริเวณใกล้กับเชิงสะพานต่างระดับสามแยกเข้าวัดจุกเฌอและวัดสมานรัตนาราม ด้านฝั่งขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ได้มีรถแท็กซี่ ทะเบียน ทพ-4493 กรุงเทพฯ เสียหลักลื่นไถลพุ่งเข้าไปชนท้ายของรถยนต์กระบะฟอร์ด ทะเบียน กธ-8777 ปราจีนบุรี จนด้านหน้ารถเก๋งแท็กซี่พังยับเยิน แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับถนนสาย 304 ช่วงตอนสี่แยกกองพลทหาราบที่ 11 ไปยังบริเวณหน้าวัดหัวสวนระยะทาง 5.5 กม. ที่มักเกิดเหตุลื่นไถลในเวลามีฝนตกลงมาในพื้นที่นั้น เป็นถนนส่วนขยายใหม่ในช่วงแรกจาก 4 เลนเป็น 8 เลนที่ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2562 จากนั้นในช่วงต้นปี พ.ศ.2563 ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแบบซ้ำซากวันละหลาย 10 ครั้งในขณะที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ แม้จะมีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อยก็ยังทำให้พื้นผิวถนนเกิดการลื่นไถลและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นตามมาโดยตลอดทั้งปี

ต่อเนื่องมาจนถึงในฤดูฝนปี พ.ศ.2564 ก็ยังคงมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีฝนตกวันละจำนวนหลายสิบครั้ง โดยมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วย ต่อมาในปี พ.ศ.2565 ทางแขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา จึงได้เริ่มมีการครูดผิวถนนคอนกรีตให้มีความหยาบมากขึ้นไปตลอดเส้นทาง ช่วงที่เคยเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก ได้ทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลของพื้นผิวการจราจรหายไปจนแทบไม่มีเกิดขึ้นอีกเลย ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 และเริ่มกลับมาเกิดการลื่นไถลซ้ำอีกครั้งในปีนี้ 2567 ที่ได้เริ่มมีให้เห็นอีกในเวลาฝนตก