วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 บริเวณที่ดินสาธารณะป่าชุมชน ทางเข้าสำนักสงฆ์ศรีดาราม บ้านภูกระแต หมู่ 13 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พ.ต.ท.สุภวุฒิ วิเศษโวหาร รอง ผกก.สอบสวน สภ.ศรีสงคราม พร้อมด้วย นายจักรพงศ์ กล่อมใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม นำเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นพ.1นำรถบรรทุก 6 ล้อขนของกลางเป็นไม้ยางนาแปรรูป จำนวน 37 แผ่นไปเก็บรักษา เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ลักลอบตัดไม้ยางนาอายุกว่า 100 ปี โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 และ มาตรา 48 โดยมีตัวแทนเทศบาลตำบลนาคำ (ทต.นาคำ)  ผู้นำชุมชน และชาวบ้านร่วมสังเกตการณ์

สืบเนื่อง วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มี นายวินัย อินสา อายุ 61 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านภูกระแต หมู่ 13  ต.นาคำ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ศิวกร ขาลไชย สว.สอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับนายองอาจ (สงวนนามสกุล) และพวกอีกหลายคน ได้ร่วมกันลักลอบตัดไม้ยางนา จำนวน 1 ต้น ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามโดยพละการ บนที่ดินสาธารณะเป็นป่าชุมชนของบ้านภูกระแต
         

นายวินัยเปิดเผยรายละเอียดว่า อดีตตนเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านภูกระแต เพิ่งเกษียณเมื่อปีที่ผ่านมา ภายหลังนายเดชา เทพวารินทร์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านแทนตน แต่ก่อนที่อายุจะครบวาระเกษียณ 60 ปี ประมาณปีเศษ ทาง ทต.นาคำ ได้มาขอประชาคมกับชาวบ้าน เพื่อขอใช้ประโยชน์บนที่ดินสาธารณะ ทางเข้าสำนักสงฆ์ศรีดาราม ซึ่งขณะนั้นได้ทำเป็นแปลงสาธิตปลูกยางพารา ประมาณ 2 ไร่เศษ โดย ทต.นาคำจะตัดต้นยางพาราสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กลุ่มชาวบ้านเห็นมีประโยชน์ต่อชุมชนจึงไม่คัดค้าน มีเงื่อนไขว่าเมื่อตัดต้นยางพาราแล้ว ให้ประมูลขายเพื่อนำเงินที่ได้เป็นกองทุน สำหรับสร้างสาธารณประโยชน์ส่วนรวม

 ล่วงมากว่าปีเศษหลังนายวินัยเกษียณแล้ว ทต.นาคำได้นำคนเข้าปรับพื้นที่ ตัดต้นยางพาราและถมดิน โดยมีนายเดชา เทพวารินทร์ ผญบ.ในฐานะผู้นำชุมชนรับทราบเรื่องดังกล่าวตลอดเวลา กระทั่งวันที่ 10 พฤษภาคม นายองอาจชาวบ้านในชุมชน ได้นำเพื่อนจำนวนหนึ่งใช้เลื่อยยนต์ ตัดยางนา 1 ต้นขนาด 3 คนโอบ อายุไม่น้อยกว่า 100 ปี ที่มีอยู่จำนวน 2 ต้นเคียงข้างกัน เพราะถือว่าอยู่นอกเหนือข้อตกลงที่ประชาคมไว้ และยังแปรรูปเป็นกระดานนับได้ 37 แผ่น ชาวบ้านเห็นการกระทำดังกล่าว จึงยกขบวนเข้าขัดขวาง
         

ต่อมา นายสุบิน สมรฤทธิ์ นายก ทต.นาคำ พร้อม นายธวัชชัย ศรีทอง และ นายสมัย สมรฤทธิ์ รองนายก ทต.นาคำ รวมทั้งนิติกรเดินทางมายังบริเวณดังกล่าว มีการพูดคุยกันนานนับชั่วโมง โดยมีบุคคลหนึ่งอ้างว่าเป็นอำนาจของ ทต.นาคำ จะทำอะไรก็ได้ พร้อมมีเสียงตะโกนขึ้นมาว่าเอาไป 1 หมื่นแล้วจบเรื่อง ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงแต่งตั้งให้นายวินัย อินสา อดีต ผญบ.ภูกระแต ม.13 เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมด

หลังมีการแจ้งความแล้ว นายเดชา เทพวารินทร์ ผญบ.คนใหม่ ได้นำรถยนต์เตรียมมาขนไม้ยางนาแปรรูปออกไป อ้างจะนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย จึงถูกชาวบ้านขัดขวางเพราะเป็นคดีความแล้ว ส่วนตอนกลางคืนได้มีการเข้าเวรยามเฝ้าไม้แปรรูปตลอดจนรุ่งเช้า กระทั่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถือหนังสือมายืนยัน เพื่อนำไม้ทั้งหมดไปเก็บไว้ที่หน่วยงานป่าไม้บ้านพนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งต้องมีผู้นำชุมชนเซ็นชื่อรับรอง ผู้สื่อข่าวจึงขอสัมภาษณ์นายเดชาผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้รับการปฏิเสธโบกมือโบกมือไม่ให้ข่าวใดๆ ด้าน นายสุบิน สมรฤทธิ์ นายก ทต.นาคำ บอกกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ไม่ได้อยู่พื้นที่แต่พร้อมจะให้รายละเอียดในวันถัดมา
         

ด้าน พ.ต.ท.สุรวุฒิ วิเศษโวหาร รอง ผกก.ศรีสงคราม เปิดเผยว่าคดีนี้ถือว่ามีความผิด 100 % เนื่องจากไม้ยางนาเป็นไม้หวงห้าม แม้จะอยู่ในบ้านหรือที่ดินของตนเองก็ตาม ต้องมีหนังสือขออนุญาตตัด ไม่ใช่กระทำโดยพละการ  ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ส่วนกรณีนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือชาวบ้าน สามารถเป็นผู้เสียหายแจ้งความได้หมด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใคร
         

ขณะเดียวกันชาวบ้านเผยว่า ที่ดินกว้างตั้ง 2 ไร่กว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสร้างตรงไหนก็ได้ ทำไมต้องมาตัดต้นยางนาที่อยู่ตรงขอบทางด้วย  และไม่ได้เกะกะอะไรเลย หากไม่มีใครมาขวางก่อน ต้นยางนาอีกต้นก็คงไม่เหลือ เพราะเบื้องลึกมีการแบ่งไม้กันคนละต้นเรียบร้อยแล้ว