วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:20 น.

ภูมิภาค

DSI ตรวจค้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจในลักษณะเข้าข่ายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว

วันพฤหัสบดี ที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 18.36 น.

ภูเก็ตDSI ตรวจค้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจในลักษณะเข้าข่ายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว (นอมินี)จำนวน3จุดพบเส้นทางการเงินประมาณ 200 กว่าล้านบาท ไม่รวมในส่วนของอสังหาริมทรัพย์


วันนี้ (6 มิ.ย.67) นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง, กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรมการท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  นำโดยนายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง และนายวรพจน์ ไม้หอม รองผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นสำนักงานบัญชีและที่ปรึกษากฎหมายแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้  จ.ภูเก็ต ตามหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต กรณีต้องสงสัยว่า มีการประกอบธุรกิจในลักษณะเข้าข่ายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว (นอมินี) โดยเข้าตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่ ต.กะทู้  อ.กะทู้ 2 จุด เป็นที่ตั้งสำนักงาน กับที่ทำงาน  และจุดที่ 3 เป็นบ้านพักอาศัย ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต มี


นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง กล่าวว่า  การดำเนินการในครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นการจัดเก็บข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปใช้ประกอบความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว  ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการตั้งเป็นเลขคดีพิเศษสำหรับบริษัทดังกล่าวเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการกับบริษัทสำนักงานบัญชีรายใหญ่ที่จดทะเบียนให้กับกลุ่มธุรกิจต่างชาติเบื้องต้นมีข้อมูลบริษัทอยู่กว่า 60 บริษัท โดยกลุ่มบริษัทดังกล่าวมี 2 ส่วน  คือ มีคนต่างชาติเป็นตัวกลางในการจัดหาคนต่างชาติด้วยกันที่ต้องการมาลงทุนหรือประกอบธุรกิจในเมืองไทย โดยบริษัทจะทำหน้าที่ในการจดทะเบียนให้อยู่ในรูปแบบของธุรกิจในประเทศ จากข้อมูลที่สืบสวนได้ และข้อมูลเส้นทางการเงินนั้น จะมี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มยุโรปและรัสเซีย จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมที่พัก  กับกลุ่มปากีสถานและอินเดีย จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร เฉพาะเส้นทางการเงินที่ตรวจพบประมาณ 200 กว่าล้านบาท ไม่รวมในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในส่วนคนไทยที่เกี่ยวข้องมีไม่จำนวนไม่มาก  โดยทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ซึ่งมีคนต่างชาตินำข้อมูลของนักลงทุนต่างชาติมาให้  ซึ่งจะได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบขยายผลในด้านข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

 

หน้าแรก » ภูมิภาค