ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีผู้ใช้นาม ตุ๊ก สุภาวดี ซ้ายชูจีน ได้โพสต์คลิปภาพเด็กชายวัย 5 ขวบ ถูกชายชราวัย 80 ปีใช้โซ่ล่ามและใช้ไม้ทุบตีเด็กชาย โดยมีผู้หญิงเข้าห้ามปรามแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ พร้อมกับลงข้อความว่า ในฐานะที่เป็นมูลนิธิ และช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ทั่วไป คลิปนี้มีคนร้องเรียนมาให้ทำอย่างไรก็ได้ให้ช่วยเหลือเด็กให้ได้เหตุการณ์นี้เกิดที่พื้นที่ บ้านควนยอ หมู่ที่ 8

สืบทราบมาว่า เด็กชายมีอาการทางสมอง เป็นเด็กไม่สมประกอบ ครั้งก่อนมูลนิธิได้ไปพบเจอเด็กชายนี้อยู่ข้างถนน ที่ลำคอถูกล่ามด้วยโซ่และลากเดินตามถนน ใบหน้ามีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย มูลนิธิสอบถามจากชาวบ้านระแวกนั้น ได้รับคำตอบว่าเป็นเด็กที่ไม่สมประกอบ และจะเดินออกมาตามถนนแบบนี้บ่อยครั้ง และพอกลับมาหาเด็กอีกครั้งปรากฏว่าเด็กไม่พบแล้ว และทราบมาว่าเด็กได้มีคนมารับกลับบ้านไปแล้ว เหตุการณ์นี้ผ่านไปประมาณ 3 เดือน อยู่มาวันนี้ก็มีคลิปอย่างที่เห็น บอกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องลงมามองเด็กคนนี้ด้วยนะคะ

รับแจ้งเบื้องต้นว่าชายสูงอายุ ที่กำลังทำร้ายเด็กมีอายุประมาณ 80 กว่าๆ ซึ่งหลงลืมด้วยเนื่องด้วยอายุมาก มูลนิธิอยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องลงมาดูและติดตามสถานการณ์ เพราะถ้าหากเป็นแบบนี้เกรงว่าจะมีการสูญเสียอย่างแน่นอน

ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้ประสานขอรายละเอียดจาก น.ส.สุภาวดี ที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่บ้านควนยอ หมู่ที่ 8 ตำบลสินปุน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเปิดเผยว่า คลิปดังกล่าวมีผู้นำชุมชนได้ส่งคลิปร้องเรียนไปยังอำเภอพระแสงแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเด็ก จึงได้นำคลิปมาร้องเรียนมาที่ตนจึงตัดสินใจโพสต์ลงคลิป หลังจากลงโพสต์ไป ทาง อบต.ได้เข้าไปเอาตัวเด็กออกมาจากบ้าน และขณะนี้กำลังรอการช่วยเหลือ.

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กรณีเด็ก 5 ขวบถูกทำร้ายร่างกาย ขณะนี้สั่งการ พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี , นายอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่ ให้ทางเจ้าหน้าที่รับตัวเด็กไว้ชั่วคราวก่อน และทราบว่ากำลังประสานงานจะส่งตัวไปรักษาที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้คิวยังไม่ว่าง กำลังเคลียร์คิว ส่วนในพื้นที่สั่งการให้นายอำเภอลงพื้นที่ ว่าจะทำอย่างไร ให้เด็กอยู่ในที่เหมาะสมที่สุด เบื้องต้นนำคนออกมาแล้ว จากการสอบถามทราบว่าที่ผ่านมาปกติปู่ซึ่งมีอายุมากแล้ว ดูแลดี เป็นช่วง ๆ เป็นอารมณ์ของเขาที่ทำเด็ก เพราะปู่มีอายุมากแล้ว อายุ 80 กว่าแล้วและเด็กกำลังโตจึงมีการกระทบกระทั่งทำร้าย  ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้าไปดูแลแล้ว

จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่าก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ทาง พม.ได้รับ แจ้งสายด่วน 1300 เรื่องขอความช่วยเหลือปัญหารายได้และความเป็นอยู่ ทางทีมชุดปฏิบัติการศูนย์เร่งรัดสวัสดิภาพของประชาชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลไทรขึง อำเภอพระแสง ทำให้ทราบว่า เด็กชายอายุ 7 ขวบเป็นผู้พิการดาวน์ซินโดรม ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านตำบลไทรขึง อาศัยอยู่กับปู่ อายุ 86 ปี ร่างกายไม่แข็งแรงเนื่องจากชราภาพ ไม่ได้ประกอบอาชีพ มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บิดาเด็กต้องโทษจำคุกที่เรือนจำสุราษฎร์ธานี มารดาเสียชีวิตอุบัติเหตุ มีพี่สาว 1 คน อายุ 20 กว่าปีเป็นผู้ดูแลตามระบุในบัตรคนพิการพี่สาวมีภาระดูแลบุตร 2 คน บุตรยังเล็กและเพิ่งแยกทางกับสามี ไม่มีเวลาและรายได้ไม่เพียงพอที่จะดูแลเด็กชายศักดาพร

โดยพี่สาวทำงานรับจ้างรายวันรายได้ไม่แน่นอนเดือนละประมาณ 3,000 บาทหลังจากพูดคุยกับเพื่อนบ้านผู้นำชุมชนพบว่าปู่ไม่สามารถดูแลเด็กได้ มักอารมณ์เสียง่าย ไม่อยากให้เด็กเดินไปไหนไกล  จึงมักล่ามโซ่เด็กทุบตี ทำร้าย มีบาดแผลหลายครั้งเป็นที่เวทนาของชาวบ้านตลอดมา ตัวปู่เองจากการสังเกตของเจ้าหน้าที่จะมีกลิ่นตัวตามเสื้อผ้าที่สวมใส่ควบคุมการปัสสาวะไม่ค่อยดี  หูตึงจึงไม่สามารถดูแลเด็กได้ เมื่อได้หารือชุมชนให้เสนอให้หน่วยงานเข้าไปดูแลและพี่สาวยินยอมที่จะให้หน่วยงานรับเด็กไปดูแลและจะไปแจ้งบิดาในเรือนจำให้ทราบ  เนื่องจากก่อนนี้ผู้ใหญ่บ้าน , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ,อพม. และเจ้าหน้าที่เคยลงพื้นที่หลายครั้งแต่มักได้รับการต่อต้านจากบิดาเด็กซึ่งติดสารเสพติด มักอาละวาดกว้างปาสิ่งของขับไล่และไม่ยอมให้เด็กไปยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่ยอมให้ใครไปยุ่งเกี่ยวในครอบครัว

แต่ขณะนี้บิดาเพิ่งติดคุกไม่นานข้อหายาเสพติดประกอบกับย่าของเด็ก เพื่อเพิ่งเสียชีวิตไป 1-2 เดือนทำให้ไม่มีใครดูแลเด็กไม่สามารถดูแลเด็กได้และไม่มีบุคคลอื่นในครอบครัวดูแลเด็กได้ เจ้าหน้าที่นิคมพระแสงจึงประสานหน่วยงานรับผิดชอบคือสำนักงาน พม. สุราษฎร์ธานีและบ้านพักเด็กและครอบครัว เจ้าหน้า เจ้าหน้าที่นิคมพระแสง เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาคนพิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวลงพื้นที่เยี่ยมเยียนบ้านเด็กพิการคนนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมาและมีข้อสรุปคือเห็นควรส่งเด็กเข้ารับการคุ้มครองระยะยาวในสถานสงเคราะห์เด็กพิการซึ่งอยู่ในภาคกลางและต้องทำประวัติส่งไปที่ส่วนกลางของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเพื่อจัดลำดับส่งเข้าสถานสงเคราะห์คนพิการต่อไป  โดยในวันดังกล่าวปู่ของเด็กยินยอมส่งเด็กและให้ความร่วมมืออย่างดี ช่วงระหว่างรอพี่สาวแจ้งว่าจะช่วยดูแลเด็กไปพลางก่อน สรุปแนวทางการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จากภาพลงพื้นที่ประเมินเบื้องต้นให้คำปรึกษาแนะนำมี 10 ขั้นพื้นฐานการคุ้มครองสวัสดิภาพตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 โดยปู่และพี่สาวรับสิทธิ์และประสงค์ที่จะส่งเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพในหน่วยงานราชการ

ล่าสุดเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.67 ปู่ของเด็กมีพฤติกรรมทำร้ายเด็กโดยไปตามเด็กกลับบ้านที่ร้านขายของชำ เนื่องจากเด็กมักเดินไปที่ร้านขายของชำเจ้าของร้านมักจะให้ขนม ให้อาหารและเอ็นดูเด็ก  เด็กไม่ยอมกลับจึงเกิดภาพตามคลิปเจ้าของร้านทนไม่ไหวจึงถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานและส่งภาพไปให้ช่องไลน์ต่างๆของหมู่บ้านล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ พม. ได้ประสานให้ทางเลขานุการ อบต.ไทรขึงและผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ไปดูในช่วงค่ำและประสานพี่สาวของเด็กออกไปรับตัวเด็กออกมาจากบ้านปู่เนื่องจากปู่ไม่ยินยอมให้ใครพาเด็กออกมา พี่สาวไปนำเด็กออกมาดูแล

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 19 มิถุนายน 2567 ทีมพม.โดยนิคมพระแสงนำพี่สาวไปส่งตัวเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพชั่วคราวในบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามเจ้าหน้าที่บ้านเด็กและครอบครัวยืนยันว่าเด็กอยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่แล้วอยู่ในระหว่างตรวจสอบสภาพจิตใจและ พรุ่งนี้พาเด็กไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งลงพื้นที่ อ.พระแสง เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่เพราะยังมีเด็กอีก 1 คน อายุ 8 ขวบที่อยู่ในความดูแลของปู่.