วันพุธ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:39 น.

ภูมิภาค

เข่าแทบทรุด!ยายจุดธูปต่อหน้าโลงสามี สลดใจเลี้ยงมากับมือตายเพราะหลานแท้ๆ

วันอังคาร ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 21.27 น.

มีความคืบหน้า กรณีหลานชายคลั่งมีดปาดคอตาแท้ๆ เสียชีวิตที่บ้านเกิ้งน้อย ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธนี บ่ายวันนี้ญาติๆ รับศพสุดเศร้า ยายเข่าแทบทรุด ยืนแทบไม่อยู่จุดธูปบอกวิญญาณตาใส ชาวบ้านหดหู่ใจตาใสเลี้ยงนายต้อมหลานชายคนนี้มากับมือตั้งแต่แบเบาะ ดูแลยังกับไข่ในหิน แต่สุดท้ายมาตายเพราะน้ำมือหลานชายคลั่งยาแท้ๆ ยายเล่าลางก่อนสามีตาย รักหลานชายมาก หากตายขออย่าให้ตายแบบเจ็บปวด
 
 
 วันนี้ (16 ก.ค67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีหลานทรดี คลั่งยา ใช้อาวุธมีดตะขอทำร้ายนายใส สุกวิสัย อายุ 84 ปี เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 38 หมู่ 10 บ้านเกิ้งน้อย หมู่ 10 ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันนี้ โดยคนก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นหลานชายแท้ๆ ทราบชื่อคือนายทนงศักดิ์ อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน นั่งเล่นอยู่ภายในบ้านของตนเองที่อยุ่อีกหลัง ปลูกอยู่ติดกันกับบ้านนายใส ต่อมาตร.สภ.กุมภวาปีได้เข้าล้อมจับเอาไว้ได้อย่างระทึก ท่ามกลางความตกอกตกใจของชาวบ้าน ไม่คิดว่านายต้อมจะก่อเหตุฆ่าตาของตัวเองได้ลงคอ โดยมีวงจรปิดของชาวบ้านจับภาพเอาไว้ได้หลังนายต้อมก่อเหตุฆ่าปาดคอนายใส ซึ่งเป็นตาของตนเองเสียชีวิตภายในบ้าน ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้าน ซึ่งตาใสเลี้ยงนายต้อมมาตั้งแต่แบเบาะจนเล็กจนโต และรักและเอ็นดูหลานชายคนนี้อย่างมากไม่คิดว่าหลานชายจะก่อเหตุฆ่าตายได้ลงคอ หลังจับกุม ตร.ได้คุมตัวนายต้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพและแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยนายต้อมไม่มีอาการวิตกกังวลแต่อย่างใด ขณะเดียวกันตร.ชุดสืบสวนได้เดินทางมาจับกุมนายโชค หลานชายตาใสอีกคน หลังนายต้อมซัดทอดว่าเป็นคนขายยาบ้าให้กับนายต้อม จึงคุมตัวไปสอบสวนที่สภ.กุมภวาปีอีกคน
 

ขณะเดียวกัน บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดบริการโนนสะอาด ได้นำร่างของนายใสผู้เสียชีวิตกลับมายังบ้านที่เกิดเหตุเพื่อบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณี โดยมีคุณยายแตงอ่อน ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของคุณตา มาจุดธูปเรียกดวงวิญาณให้รับรู้ก่อนนำร่างเข้าบ้านประกอบพิธี เมื่อนางแตงอ่อนเห็นสามีอยู่ในโลงศพถึงกับเข่าทรุด จนลูกๆ หลานได้ประคอง โดยนางแตงอ่อนได้จุดธูปและเคาะโลงบอกวิญญาณสามีว่า เฒ่าเอ๊ยไปสู่สวรรค์เด้อ บ่ทุกข์บ่ยากแล้ว ตายย้อนหลานคักๆ ฮักหลานชายกะตายย้อนหลาน ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ท่ามกลางความเศร้าโศกและหดหู่ใจของชาวบ้าน ซึ่งศพของคุณตาใส ทางญาติจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 18 ก.ค.67 นี้ ที่วัดใกล้บ้าน
 

ยายแตงอ่อน เปิดเผยกับนักข่าวอีกครั้งว่า ยายไม่คิดว่าหลานชายจะฆ่าตาได้ลงคอ เมื่อวานตาใสได้เล่าให้ยายฟังว่า จะตายก็ช่างมันเถอะ แต่ขอให้ตายแบบง่ายๆ เหมือนคนในบ้านชื่อนายแมว ยายก็เตือนตาว่า ตาอย่าไปยุ่งกับหลานชายคนนี้มาก เห็นข่าวในโทรทัศน์หลานฆ่าตาฆ่ายายตาย อยากให้อยู่ห่างๆ ตารักหลานคนนี้มาก เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะจนโตอายุ 37 ปี ยายก็ย้ำนะว่า ตาอย่าไปยุ่งกับหลานมาก แต่ตาก็บอกยายว่า ตายก็ช่างมันเหอะไหนๆ ทุกคนก็จะตาย ไม่คิดว่าว่าจะเป็นลางที่ตาพูดเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกันนี้ยายแตงอ่อนเอายาเส้นที่ใช้สำหรับเคี้ยวหมากมาให้ดู บอกว่า เมื่อคืนหลานชายคนนี้เดินทั้งคืน เดินมาดึงเอายาเส้นไปสูบบุหรี่สุดท้ายก็ฆ่าตาตายคาบ้าน
 
นางทองหลาง (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี หลานสาวซึ่งเป็นคนในกล้องจรปิด เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนตื่นมาพอดีได้ยินเสียงคุณยายร้องเสียงดัง จึงเดินมาดูและเปิดประตูรั้วบ้านไปสอบถามว่าใครเป็นไร เปิดออกไปก็เห็นนายต้อมเดินออกมาจากบ้าน ร้องเรียกถามนายต้อมว่า ยายเป็นอะไรหรือใครเป็นอะไร นายต้อมก็ไม่พูดอะไรแล้วก็เดินกลับไปหลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงคุณยายร้องบอกว่าบักต้อมฆ่าตาแล้วๆ จึงออกวิ่งไปดูเข้าไปในบ้านเห็นแต่ตานอนจมกองเลือดแล้วจึงร้องเรียกชาวบ้านให้ออกมาดู ตนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องเรียกให้ชาวบ้านมาช่วย ส่วนตัวก็ไม่คิดว่านายต้อมจะกล้าลงมือฆ่าตาตัวแต่คงเป็นเพราะยาเสพติดที่ทำให้นายต้อมสามารถกล้าลงมือฆ่าตาตัวเองได้แบบนี้ ก่อนหน้านี้ นายต้อม ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงถึงแบบนี้ ส่วนใหญ่หากขอเงินตาหรือยายไม่ได้ก็จะพูดบ่นแล้วก็เดินหนีจากไป สำหรับนิสัยส่วนตัวของนายต้องเป็นคนไม่ค่อยพูดค่อยจากับชาวบ้าน ใครถามอะไรก็ไม่ตอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนในฐานะเพื่อนบ้านก็รู้สึกเสียใจหลานแท้ๆไม่น่ามากล้าลงมือฆ่าตาตัวเองได้
 

ทั้งนี้หลานคนนี้ตาใสเป็นคนที่มันลงมือฆ่ารักมากเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ใครมาพูดให้หลานคนนี้ก็ไม่ได้ จับก็ไม่ได้ เนื่องจากรักหลานคนนี้มาก ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุร้ายชาวบ้านบอกว่าได้ยินนกแสกร้องติดต่อกัน 3 วัน ตอนแรกก็คิดว่าคงมีคนป่วยภายในหมู่บ้านเสียชีวิตแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นคุณตาซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านกันถูกหลานแท้ๆฆาตกรรม ตอนนี้นายต้อมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแล้วอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาให้หนักที่สุดให้ติดคุกนานๆ เพราะหากออกมาก็คงจะกลับมาบ้านหลังนี้อีกและกลัวว่าศพต่อไปเป็นคุณยาย
 

ด้านนายชินกร ศรีมงคล อายุ 55 ปี บอกว่า นิสัยของนายต้อมนั้นมีนิสัยก้าวร้าวกับคนภายในครอบครัว แต่กับชาวบ้านหรือกลับคนอื่นจะไม่ค่อยกล้า นายต้อมนั้นแต่ก่อเคยทำงานที่ กทม.แต่ก็อยู่ไม่ได้กลับมาก็ทำงานที่โณงงานใกล้บ้านเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ทำได้แป๊ปก็ลาออกมาอยู่บ้านเฉย โดยมีตาและยายดูแลหุงข้าวหาข้าวหาน้ำให้กินทุกวัน สุดท้ายก็มาก่อเหตุฆ่าปาดคอตา เพราะคลั่งยาแท้ๆ

หน้าแรก » ภูมิภาค