ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการภาค 7 หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำตรวจทำเกินกว่าเหตุชักปืนขู่ ทำร้ายร่างกาย จับของสงวนผู้หญิง ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
    

วันที่ 19 ก.ค. 67 นายชาติ แก้วตาทิพย์ ที่ปรึกษา กต.ตร. จ.สมุทรปราการ รองประธาน กต.ตร.สภ.คลองด่าน ที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.บางบ่อ และนักแสดงอิสระ อายุ 53 ปี พร้อมทนายเข้าร้องเรียนสื่อ หลังถูกกลุ่มบุคคลอ้างเป็นตำรวจชุดสืบสวนจากภาค 7 และภจว.ราชบุรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าจับกุมเกินกว่าเหตุ โดยมี น.ส.จุฑารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งถูกกลุ่มคนดังกล่าว ใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย จับของสงวน โดยไม่มีการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่มีหมายจับ เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13 ก.ค. 67 ภายในปั้มน้ำมัน ปตท.แยกปากท่อ ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ภายหลังทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากภาค 7 และชุดสืบสวนภวจ.ราชบุรี ทั้งหมด 15 นาย จาก ภาค 7 ทั้งหมด 7 นาย และภจว.ราชบุรี 8 นาย เบื้องต้นทั้งนายชาติและ น.ส.จุฑารัตน์ มีร่องรอยของการถูกทำร้าย บริเวณแขนทั้งสองข้าง บริเวณขา ที่เอวและปลายคาง ลักษณะเป็นรอยฟกช้ำ
    

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. นายชาติ แก้วตาทิพย์ และ น.ส.จุฑารัตน์ (สงวนนามสกุล) พร้อมทนายความ ได้เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานต่างๆ พร้อมคลิปวีดีโอ กับกลุ่มตำรวจทั้ง 15 นายกับ พ.ต.อ.นิกร รสสุนทร รองผบก.อก.ภ.7 ที่เข้าจับกุมนายชาติ และน.ส.จุฑารัตน์ เกินกว่าเหตุ ต่อมาได้เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับ พล.ต.ต.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม เบื้องต้นทั้งสองแห่งได้รับเรื่องร้องเรียนไว้และจำดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง รายละเอียดต่างๆ และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
    

ด้าน พล.ต.ต.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช กล่าวว่า เบื้องต้นก็จะมีการสอบสวนก่อน ซึ่งอำนาจหน้าที่ก็จะเป็นของผู้บัญชาการภาค 7 เพราะมีการกระทำของทั้ง 2 หน่วยงานร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ต้องรอการตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ก่อนเบื้องต้นยังไม่เห็นคลิปเลยไม่สามารถพูดอะไรได้ถ้าเห็นชัดเจนว่ามีการกระทำผิดนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดก็จะสามารถสั่งการได้เลย แต่ถ้าดูแล้วก่ำกึ่งในอำนาจหน้าที่ ก็จะต้องตรวจสอบไปอีกว่าจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ในส่วนของการจับกุมถ้าผู้ต้องสัยเป็นผู้หญิงนั้น ถ้าในชุดจับกุมมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงก็ต้องใช้ หากไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ทั้งนี้ก็ต้องเป็นกรณีความผิดทางอาญาด้วย ซึ่งถ้าไม่เป็นความผิดทางอาญาก็ไม่สามารถไปจับเขาได้ ทั้งนี้การจับผู้หญิงเพียงคนเดียวแล้วใช้อาวุธปืนนั้นโดยหลักการแล้วไม่ได้แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่ได้เห็นภาพ
    

หลังจากนั้นได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับ พ.ต.อ.สายฟ้า จิราวรรธนสกุล รองผบก.ภ.จว.ราชบุรี โดยทาง พ.ต.อ.สายฟ้าก็ได้รับเรื่องและจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กับทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นก็ได้ไปที่สภ.ปากท่อได้นำตัวผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์และถูกกระทำไปร้องเรียนเพิ่มเติมกับชุดจับกุม ทั้ง 15 นายนี้ด้วย
    

โดยนายชาติ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายยังนำคลิปการเข้าจับกุมของกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ โดยมืชอบทำเกินกว่าเหตุ โดยอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหากันโชกทรัพย์ เรื่องยกเลิกสัญญาเช่ารถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 2 คัน จากเจ้าของรถ ที่ขอรถคืนก่อนกำหนดสัญญา แต่ตนไม่เกี่ยวอะไร แค่รู้จักผู้เช่า กลับต้องถูกจับกุม ตามในคลิป โดยจะสังเกตุว่าการจับกุมครั้งนี้รุนแรงเกินไป ทั้งๆที่ผู้เช่าเป็นผู้หญิง แต่กลับใช้อาวุธปืน กระชากลากถู ร่วมถึงตนที่จะวิ่งไปช่วยก็ถูกยกปืนขู่ ห้ามเขเามาช่วย จนถูกล็อคจับใส่กุญแจมือ เช่นกัน จนถูกนำตัวไปสอบ สภ.ปากท่อ และไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง และถูกปล่อยตัวออกมา แต่เรื่องทำให้เสียทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว และเสียชื่อเสียง เบื้องต้นจะทำหนังสือร้องเรียน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจีงหวัดราชบุรี และ สภ.ปากท่อ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. นายชาติ และน.ส.ไอซ์ ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีให้กับ พ.ต.อ.สายฟ้า จิราวรรธนสกุล รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี
    

สำหรับ เหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า แต่เดิมจะมีการส่งมอบรถที่ อ.นครชัยศรี ที่อู่ลูกน้องของเจ้าของ ผู้เช่า จ้างคนขับไป แต่รถติดหล่ม เลยตัดสินใจให้มารับรถที่นี่แต่ทนายที่เป็นคนดำเนินการเรื่องร่างสัญญาได้ไปธุระ เลยให้นายชาติ มาดูเอกสารแทนตัวทนาย จึงได้นัดกันมาที่ปั้ม ปตท.ที่เกิดเหตุ ก่อนเข้าไปคุยในคาเฟ่ได้สักพัก ก่อนจะให้มานัดเซ็นต์เอกสาร ที่ท้ายรถ ซึ่งเดิมทีจะจ่ายเงิน ชดเชย ค่ายกเลิก สัญญา 350,000 บาท แต่ตกลงกันจะจ่าย 200,000 บาท และอีก 150,000 บาท เป็นค่างวดรถ อัลพาทที่น.ส.จุฑารัตน์ได้ค้างค่างวดไว้ ทางผู้ให่เช่า ได้เอาเงิน 2 แสนมาแล้ว แต่ให้ไปเอาเงินที่ปากทางเข้าปั้ม ต่อมาให้ไปนับเงินที่ท้ายรถ ขณะที่เอาเงินมามอบให้ ที่ท้ายรถเก๋ง อยู่ๆ ก็มีผู้ชายสองคนเข้ามาด้านข้าง น.ส.ไอซ์ ได้ตะโกนขึ้นมาว่าช่วยด้วย ถูกปล้น เพราะนึกว่าจะมาปล้นเงินที่ตนมี นายชาติเลยได้วิ่งเข้าไป ขณะวิ่งก็ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้ามารวบตัวจากด้านหลัง พร้อมทั้งเตะขาให้ล้ม จับกดลงพื้นและใส่กุญแจมือ ก่อนจะนำตัวทั้งหมดไปที่สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และควบคุมตัวตั้งแต่เวลา 16.00-18.10 น. พร้อมทั้งใส่กุญแจมือรวมกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งเหตุที่ปล่อยตัวเพราะผู้เสียหายไม่รู้จักกับนายชาติ เลยปล่อยตัว ส่วนทางด้าน น.ส. ไอซ์ ก็ถูกถอดกุญแจมือในเวลาเดียวกันก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จนถึงเวลา 05.00 น.    
    

นายชาติยังบอกอีกว่าจนถุงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคำขอโทษจากเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้แต่อย่างใด และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด