วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 16:52 น.

ภูมิภาค

สมุทรสงครามโหวตเลือก “ต้มกะทิสายบัวปลาทูแม่กลอง” เป็นเมนูรสชาติที่หายไป

วันเสาร์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 13.28 น.

ชาว จ.สมุทรสงคราม ลงมติเลือก “ต้มกะทิสายบัวปลาทูแม่กลอง” เป็นเมนูรสชาติที่หายไป The Lost Taste ภายใต้โครงการ Thailand Best Local Food


นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ รอง ผวจ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่าได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเมนูอาหารถิ่น จ.สมุทรสงครามภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปี 2567 โดยมีคณะกรรมการร่วมกันพิจารณาและรับรองผล หลังจากปิดโหวตคัดเลือก “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” โดยชาวสมุทรสงครามมีส่วนร่วมในการโหวตผ่านสื่อทุกช่องทางเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 มีผู้เข้าร่วมโหวต 651 คน ผลปรากฏว่าเมนู “ต้มกะทิสายบัวปลาทูแม่กลอง” ได้สูงสุด 583 คะแนน รองลงมาคือ จ่ามงกุฎ 23 คะแนน แกงร้อน 18 คะแนน ค้างคาวเผือก 14 คะแนน และแกงคั่วส้มแฟงไก่บ้านใส่ปลาอินทรีย์เค็ม 13 คะแนน จึงมีมติรับรองเมนู “ต้มกะทิสายบัวปลาทูแม่กลอง” เป็น “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ของ จ.สมุทรสงครามและจะส่งผลการโหวต พร้อมคลิปวีดิโอขั้นตอนการทำให้กระทรวงวัฒนธรรมประกาศรับรองและเผยแพร่ต่อไป

 


สำหรับเมนู “ต้มกะทิสายบัวปลาทูแม่กลอง” มีประวัติความเป็นมาคือเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว พืชน้ำ เช่น บัวก็ออกสายอ่อนๆ ทอดตัวยาวในน้ำ ประกอบกับปลาทูแม่กลองสัตว์น้ำพื้นถิ่นจะมีรสมันเนื้อนุ่มอร่อยมาก ชาวบ้านจึงปรุงต้มกะทิสายบัวรับประทานในครอบครัว แม้จะเป็นอาหารที่ทำง่ายแต่แสดงถึงภูมิปัญญาตั้งแต่สมัยโบราณที่มีการนำวัตถุดิบน้ำจืด “สายบัว” มาผสมผสานกับวัตถุดิบน้ำเค็ม “ปลาทูแม่กลอง" ได้อย่างลงตัวแล้วนำกะทิจากมะพร้าวพันธุ์พื้นเมืองชื่อพันธุ์ “หมูสี” ที่มีรสมันมาทำเป็นซุปกะทิที่เหมาะกับช่วงฤดูหนาวเพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย


ดังนั้น ต้มกะทิสายบัวปลาทูแม่กลอง จึงเป็นสุดยอดอาหารแห่งฤดูกาลที่รวมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอาหารของ จ.สมุทรสงครามไว้หลายอย่าง เช่น การทำกะปิ นาเกลือ น้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว นอกจากนี้ยังมีปลาทูแม่กลองซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของ จ.สมุทรสงครามรวมถึงวัตถุดิบท้องถิ่นอื่นๆ ที่หาได้จากชุมชน

 


           

ขั้นตอนการทำ คือนำปลาทูนึ่งห่อใบตองย่างบนตะแกรงด้วยไฟอ่อนเพื่อให้มีกลิ่นหอม แล้วเลาะก้างออกเอาแต่เนื้อ นำกะปิห่อด้วยใบตองย่างให้หอม แล้วนำสายบัวแดงอ่อนๆมาล้างทําความสะอาดด้วยน้ำมะนาวลอกผิวออกให้หมดจะทำให้เมื่อนำไปลวกจะไม่ทำให้สีคล้ำ แล้วหักสายบัวเป็นท่อนประมาณ 1 นิ้วแล้วนำพริกไทยเม็ดใส่ครก เติมรากผักชี และหอมแดงโขลกทั้งหมดให้ละเอียด ใส่กะปิย่างลงไป โขลกให้เข้ากันตักใส่ภาชนะ นําหางกะทิใส่ในหม้อแล้วเติมหัวกะทิครึ่งส่วน ใช้ไฟกลาง เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน ใส่ส่วนผสมเครื่องโขลกลงในหม้อ คนให้เข้ากัน ปล่อยให้เดือดเล็กน้อย ใส่สายบัวลงไปต้ม เติมเนื้อปลาทู คนเบามือให้เข้ากัน แล้วเติมหัวกะทิที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันปรุงรสด้วยมะดันหรือตะลิงปลิง หรือน้ำมะขามเปียก เกลือสมุทร หัวน้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว คนส่วนผสมให้เข้ากัน เคี่ยวส่วนผสมให้สุกทั่ว เสร็จแล้วตักใส่ชามกินกับข้าวเหลืองปะทิวพื้นถิ่นร้อนๆ อร่อยลงตัว

 


           

สำหรับเมนูดังกล่าวสามารถเผยแพร่และพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นเมนูที่นำมาพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนมีการวิจัยและพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเป็นเมนูที่สามารถพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการนำไปต่อยอดเมนูอาหารแบบฟิวชั่น ที่นำวัฒนธรรมการปรุงอาหารของตะวันตกมาผสมผสานได้ เพื่อส่งเสริมการตลาดและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อาหารไทยสู่สากล

หน้าแรก » ภูมิภาค