วันอังคาร ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:27 น.

ภูมิภาค

อลังการงานสร้าง "โบสถ์สแตนเลส" วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง แห่งแรกอีสาน เข้มขลังสวยงาม หนุนท่องเที่ยวเชิงธรรมะ

วันอาทิตย์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 13.34 น.

วันที่ 18 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง หรือชาวบ้านเรียกสั้นๆว่าวัดธาตุน้อย ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม กลายเป็นที่ตื่นตาตื่นใจในระยะเวลาไม่นาน โดยทางวัดได้สร้างสิ่งสวยงามตระการตา รวมทั้งเพิ่มความเข้มขลังมากยิ่งขึ้น กล่าวคือพระครูวินัยธรวิวัฒน์ ญาณวัฑฺฒโน อายุ 36 ปี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ได้ร่วมกับพลังศรัทธา มีการพัฒนาบูรณะอุโบสถ์หลังเดิม ที่มีอายุการก่อสร้างมาไม่น้อยกว่า 80 ปี สิ่งที่เพิ่มเติมนอกจากการบูรณะในครั้งนี้  คือความสวยงามแปลกตา

โดยเจ้าอาวาสนักพัฒนาเกิดไอเดียเก๋ ว่าจ้างช่างฝีมือตกแต่งโบสถ์ ด้วยงานสแตนเลสทั้งหลัง เน้นความวิจิตรตระการตา ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงหลังคา ที่มีการตกแต่งด้วยลายกนก รวมถึงลายพญานาค ที่เกิดจากการขึ้นรูปงานสลักดุน ตอกให้ยุบและดุนให้สูงเพื่อให้เกิดลวดลายนูนต่ำตามต้องการ ซึ่งเป็นเป็นงานฝีมือหมวดหนึ่งของงานช่างไทย อยู่ในช่างสิบหมู่ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

ภายในก็ตกแต่งด้วยสแตนเลส พร้อมประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ ตั้งเป้าคาดต้องใช้งบประมาณก่อสร้างราวๆ 30 ล้านบาท ปัจจุบันการบูรณะคืบหน้าประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์  โดยได้ออกแบบภายในสลักดุนเป็นพุทธประวัติ และตำนานองค์พระธาตุพนม โดยรวบรวมพลังศรัทธา บริจาคสมทบทุนจนกว่าจะแล้วเสร็จ

พระครูวินัยธร วิวัฒน์ ญาณวัฑฺฒโน อายุ 36 ปี เจ้าอาวาสวัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง เปิดเผยว่าวัดธาตุน้อยถือเป็นวัดโบราณสำคัญ ก่อตั้งในยุคเดียวกันกับก่อสร้างองค์พระธาตุพนม อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี เหตุที่ได้ชื่อวัดธาตุน้อย มีประวัติเล่าว่าเจ้าศรัทธาได้นำสิ่งของแก้ว แหวน เงินทอง รวมทั้งของมีค่า พากันเดินทางไปเพื่อร่วมกันก่อสร้างองค์พระธาตุพนม เมื่อมาถึงบริเวณที่ตั้งวัดธาตุน้อยในปัจจุบัน ในขณะนั้นเป็นป่าทึบชุกชุมด้วยสิงสาราสัตว์ ก็มีม้าเร็วมาส่งข่าวว่าพระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้ว กลุ่มเจ้าศรัทธาจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ เพื่อบรรจุสิ่งของมีค่าเหล่านั้น จึงเรียกชื่อว่าพระธาตุน้อยมาถึงปัจจุบัน

ส่วนพระธาตุน้อยล้มเมื่อใดนั้นไม่ปรากฏ แต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านเล่าสืบๆกันมาว่า ช้างของพระแก้วโกมล เจ้าเมืองเรณูนครได้เลี้ยงไว้ ได้ถูกปล่อยออกมาหากิน จึงวิ่งมาชนกับองค์พระธาตุน้อย ทำให้พระธาตุพังทลายล้มลงทั้งองค์ ต่อมาประมาณปี 2466 ชาวบ้านได้มีการบูรณะใหม่แต่ไม่สำเร็จได้พังลงมาอีก เพราะช่างสมัยนั้นยังขาดความรู้ความชำนาญในการก่อสร้าง ประกอบกับเจอพายุฝนกระหน่ำทำให้เกิดน้ำขังในองค์พระธาตุ และน้ำฝนได้ดันพระธาตุให้แตกพังทลายลงมาตามเดิม ปัจจุบันบริเวณพระธาตุน้อยศรีบุญเรืององค์เดิม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เพื่อรักษาวัตถุโบราณ ภายใต้องค์พระธาตุไว้ มิให้ผู้ใดมาขุดค้นหาวัตถุโบราณ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชนชาวพุทธ

ส่วนพระธาตุน้อยศรีบุญเรืององค์ใหม่ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2559 แล้วเสร็จในปี 2563 รูปทรงเป็นการจำลองแบบมาจากองค์พระธาตุพนม ด้านหน้าพระธาตุจะมีรูปปั้นพญาสุวรรณนาคราช และ พญาภุชงค์นาคราช เลื้อยล้อมพระธาตุโดยรอบ เป็นรูปปั้นที่อ่อนช้อยสวยงาม รวมถึงพระแก้วสีแดงนาคปรกทรงเครื่องสามฤดู ทั้งนี้วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง ตั้งอยู่ระหว่างบ้านศรีบุญเรือง หมู่ 11 และ บ้านธาตุน้อย หมู่ 5 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม ริมทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) เส้นจากตัวเมืองนครพนมก่อนถึงสามแยกเรณูนคร และเป็นเส้นทางเดียวกับที่ไปวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

หน้าแรก » ภูมิภาค