เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 13 กันยายน 2567 ร.ต.อ.อะลาม ครุฑจู รองสารวัตรสอบสวนสภ.บางโทรัด รับแจ้งว่าพนักงานบริษัท สิน หมื่น แสน จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 3/10 หมู่ที่ 1 ตำบลชัยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน จำนวน 21 คน มีอาการอาเจียนและเป็นลม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายมานะ เปาทุย สาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรสาครเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร,โรงพยาบาลเอกชัย, โรงพยาบาลมหาชัย1, โรงพยาบาลเจษฎา,โรงพยาบาลวิภาราม, โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร นำรถมานำตัวพนักงานที่ได้รับผลกระทบส่งโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

จากการสอบถามทางด้านพนักงานบอกว่าตอนแรก ก็ได้กลิ่นคล้ายคลอรีน หรือ ไฮเตอร์ ลอยมา นึกว่ามีการล้างบ่อ เพราะทุกทีจะได้กลิ่น แต่ไม่แรงขนาดนี้ พอสักพัก กลิ่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกแสบตา กับอาเจียน ทางผู้ดูแล จึงได้ให้พนักงานทั้งหมดออกมาข้างนอก เพราะว่าอากาศถ่ายเทได้ดีกว่า ทุกคนจึงรีบออกมา

ส่วนทางด้านนายสุชาติ คงฉิม อายุ 58 ปี เจ้าของบริษัท สิน หมื่น แสน จำกัด บอกว่าขณะเกิดเหตุตนอยู่ด้านในสวนและออกมาเห็นพนักงานวิ่งออกมาจากโรงงานและอาเจียน เพิ่งได้รับกลิ่นคล้ายๆ โซดาไฟ กับกำมะถัน กลิ่นแรงมาก โดยอ๊อฟฟิศเราค่อนข้างเจอผลกระทบมาก โดยมีพนักงานได้รับผลกระทบรวม 21 ราย มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และลิ้นชา โดยตอนนี้ส่งไปที่โรงพยาบาล ซึ่งสารเคมีนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์อยู่ซึ่งเราตอบไม่ได้ว่ากลิ่นมาจากไหนต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานดู

ส่วนทางด้านร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร กล่าวว่าเวลาประมาณ 16 นาฬิกา กว่าๆ พนักงานได้กลิ่นคลอรีน ทำให้เกิดความระคายเคือง ทั้งด้านทางเดินหายใจ และพนักงานหลายคนที่อยู่ในโรงงานเกิดอาการคลื่นเหียน วิงเวียน ศีรษะ แสบคอ แสบจมูก และเข้าใจว่า เกิดจากภายในโรงงาน ซึ่งประกอบสารเคมี ทั้งนี้ ตนพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมจังหวัด สิ่งแวดล้อมจังหวัด สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ขอเข้าไปตรวจดูภายในบริษัท เจแอล เชมโทนิค จำกัดซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงบริษัท สิน หมื่น แสน จำกัด เพื่อดูว่าในส่วนของโรงงานตรงนี้ มีอะไรเกิดการรั่วไหลบ้างหรือไม่ จึงทำให้เกิดการฟุ้งกระจายของกลิ่นดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าของโรงงานได้พาไปดูทุกจุด ในสถานประกอบการ ปรากฏว่า เบื้องต้นไม่พบการรั่วไหลหรือการฟุ้งกระจายของสารคลอรีนหรือสารเคมีอื่นๆ ภายในโรงงาน

ดังนั้นเบื้องต้นทางโรงงานแห่งนี้จึงไม่น่าจะใช่สาเหตุของการเกิดกลิ่นสารเคมีรั่วไหลดังกล่าว แต่ก็จะต้องให้ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบหาความชัดเจน โดยอุตสาหกรรมจังหวัดและสิ่งแวดล้อมจังหวัดจะตรวจเชิงรุกอีกครั้งหนึ่ง แต่ขณะนี้ทางกายภาพแล้ว ไม่พบจุดที่จะเป็นสาเหตุของการเกิดการรั่วไหลของสารเคมี ที่ทำให้พนักงานเกิดอาการดังกล่าวได้ ขณะเดียวกัน พอข้ามคลองท่าแร้งไปก็จะมีอีก 1 โรงงาน แต่ว่าอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลบางโทรัด ซึ่งตนได้มีการประสานไปยังนายก อบต.บางโทรัดแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ให้สนธิความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบด้วยว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น มีการเกิดเหตุการณ์อะไรหรือไม่ โดยจะดูจากการบันทึกข้อมูลทั้งจาก รายงาน และกล้องวงจรปิด และอื่น ๆ ที่เป็นการบันทึกระบบของทางบริษัท เพื่อดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ กลิ่นที่เกิดขึ้นในวันนี้หรือไม่ ขณะที่ในส่วนของผู้ที่ได้กลิ่น แล้วมีปัญหาทางด้านสุขภาพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปยังโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลก็จะตรวจสอบและซักประวัติคนไข้อีกครั้งหนึ่งว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการคลื่นเหียนวิงเวียน เกิดจากอะไร หรือถ้าตรวจลงลึกไปว่าเกิดจากสารเคมีชนิดใดก็จะทำให้เราสามารถตรวจสอบไปยังต้นตอของโรงงานแห่งนั้นได้ สำหรับผู้ที่มีอาการทั้งหมด 21 ราย โดยมีอาการหนัก 2 ราย มีอาการอาเจียนและเป็นลม ส่วนที่เหลืออาเจียนและวิงเวียนศรีษะ อยู่ในระหว่างการดูแลรักษาของแพทย์.