อำเภอลำปลายมาศ / มูลนิธิเอกชน ประกาศรับสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เชียงราย ได้ข้าวสารอาหารแห้งและสิ่งของมูลค่ามากกว่าล้านบาท หลังเห็นภาพหน่วยกู้ภัยบุรีรัมย์ส่งภาพการช่วยเหลือกลับมาจังหวัดว่ารุนแรงกว่าที่คิด เผยประกาศเพียงวันเดียวมีประชาชนขนข้าวของมารวมกันเป็นจำนวนมาก ระบุจะมอบให้พระจัดการ

วันที่ 14 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มูลนิธิอาณัตพณซารัมย์(ลูกเติ้ง)ได้มีชาวบ้านจากหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น อ.หนองหงส์ ,ลำปลายมาศ ,คูเมือง,พุทไธสง ,นาโพธิ์ และอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ขนข้าวสารอาหารแห้ง และเครื่องใช้จำเป็นในการดำรงชีพ มาบริจาคเป็นจำนวนมาก

หลังจากมูลนิธิฯได้ประกาศรับของสิ่งของบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย บรรยากาศเต็มไปด้วยความอิ่มบุญ ชาวบ้านกว่า 100 คนมาช่วยกันแพ็คสิ่งของแยกเป็นหมวดหมู่ แล้วขนขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อเพื่อเตรียมเดินทางไปส่งมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์บุรีรัมย์ ได้ส่งคลิปภาพการลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดเชียงราย มาให้ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับทราบถึงความรุนแรงของน้ำท่วมในครั้งนี้ และยังสาหัสหลังจากเขื่อนแตก และอยากจะให้ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ส่งของที่จำเป็นไปช่วยเหลือ

นายโสภณ ซารัมย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิอาณัตพลซารัมย์ (ลูกเติ้ง) และ สส.พรรคภูมิใจไทยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าการรับบริจาคสิ่งของในครั้งนี้คิดเพียงคืนเดียว แล้วส่งไปยังไลน์กลุ่มของมูลนิธิฯและกลุ่มไลน์ FC ของตนประมาณ 40 กลุ่ม

หลังจากนั้นได้มีเสียงตอบรับมาอย่างล้นหลามจนเหลือเชื่อ ก่อนจะมีการข้าวสารอาหารแห้งและสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ มาส่งมอบที่มูลนิธิฯเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีบริษัทเอกชน นำรถ 10 ล้อมาอีก2 คัน รถกระบะอีก 4 คันมาอาสาขนส่งให้ฟรีอีกด้วย

นายโสภณ กล่าวด้วยว่า สิ่งของที่ได้รับบริจาคมาจากการสำรวจเบื้องต้นมีมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในฐานะที่ตนเองเป็นนักการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงจริยธรรมต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายในตอนนี้ ทางมูลนิธิฯจะส่งมอบสิ่งของให้กับคณะสงฆ์ คือเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย หลวงพ่อประเสริฐวัดผาเงา และส่งมอบให้พระเมธีวชิโรดมหรือว.วชิรเมธี ซึ่งสิ่งของที่ได้ไปบรรทุกรถ 10 ล้อได้ 2 คันและรถกระบะอีก 4 คัน แบ่งให้ทั้ง 2 แห่งเพื่อให้พิจารณาการแจกจ่ายผู้เดือดร้อนในพื้นที่เอง

นายโสภณ กล่าวอีกว่า กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการแบ่งทุกข์เฉลี่ยสุขให้กับพี่น้องผู้ประสบภัย สิ่งของที่ได้มาทั้งหมดจะได้มาจากชาวบ้านทั่วไป เพราะเราใช้คำว่าบริจาคจริงๆ ไม่รับเงินสดรับเฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น ถือเป็นความสามัคคี บางอำเภออยู่ห่างเป็น 100 กม.ยังเดินทางมาบริจาค ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มานานยอมรับว่ารู้สึกตื้นตัน กรณีที่มีคนทักท้วงมาเกี่ยวกับการบริจาคเป็นเงินสดด้วยการโอนจะง่ายกว่าหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นสิ่งของจะมองเห็นเงามากกว่าเงินสด